ตลาดหุ้นยุโรปและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐปรับตัวลดลงหลังราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อบริษัทค้าปลีกและผู้ผลิตรถยนต์ แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมซื้อสินทรัพย์ของธนาคารมูลค่ากว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ก็ตาม ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นคาร์ฟู เอสเอ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ลดลง 2.1%, หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป ลดลง 1.5% หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน, หุ้นลอยด์ส ทีเอสบี กรุ๊ป พีแอลซี ลดลง 1.5% หลังถูกเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้น และหุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟซี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ ทะยานกว่า 4%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 9.43 น.ตามเวลาลอนดอน ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 ขยับลง 0.5% แตะ 276.79 จุด หลังปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา, ดัชนี Standard & Poor's 500 ลดลง 0.5% และดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 2.6%
"หลังตลาดดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เราก็มีเวลาพิจารณาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด" ซาลาห์ เซดดิค ผู้จัดการกองทุนจากบริษัท Richelieu Finance ในปารีส กล่าว "สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในตอนนี้คือการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมา"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--