ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 75 จุด เหตุวิตกมาตรการพยุงภาคการเงินสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 23, 2008 07:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) โดยตลาดเคลื่อนตัวผันผวนอย่างหนักในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าการที่รัฐบาลสหรัฐจะนำงบประมาณมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์มาใช้กอบกู้วิกฤตการณ์ในภาคการเงินนั้น จะสามารถแก้ปัญหาได้ นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นไปยืนเหนือระดับ 120 ดอลลาร์ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 75 จุด แตะที่ 5,236.3 จุด
ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐกำลังกดดันให้สภาคองเกรสอนุมัติแผนการพยุงภาคการเงินด้วยการใช้งบประมาณมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์นั้น นักลงทุนจำนวนมากกลับมองว่ามาตรการดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลสหรัฐขาดดุลงบประมาณและขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมูลค่ามหาศาล
ทั้งนี้ นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงิน ส่งผลให้ราคาหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สดิ่งลง 3.8% หุ้นธนาคาร HBOS ร่วงลง 4.1% หุ้นธนาคาร HSBC ทรุดลง 5.0% หุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 5.2% และหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ดิ่งลง 6.1%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากมีรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อนุมัติคำร้องของโกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ สองวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่แห่งสุดท้ายในตลาดวอลล์สตรีท ที่ต้องการเปลี่ยนสถานะตนเองเป็นธุรกิจประเภท "บริษัทโฮลดิ้งธนาคาร" ซึ่งการเปลี่ยนสถานะครั้งนี้จะช่วยให้สถาบันการเงินทั้งสองแห่งสามารถจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ที่สามารถรับฝากเงินออม และจะช่วยกระตุ้นแหล่งรายได้ของสถาบันการเงินทั้งสองด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินครั้งใหญ่ในสหรัฐ
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นบีพีดีดขึ้น 1.8% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ทะยานขึ้น 2.1% หุ้นบีจีพุ่งขึ้น 3.2% หุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จี ดีดขึ้น 3.9% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ทะยานขึ้น 4.4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ