โบรกเกอร์ มองยังน่าลงทุนหุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)หลังราคาน้ำมันพุ่งแรงและราคาหุ้นยังขยับมารับไม่มาก แต่หากใครมีในมือให้ขายทำกำไรไปก่อนรอราคาอ่อนคัวกว่านี้ค่อยเก็บ เพราะแนวโน้มราคาน้ำมันยังอาจแกว่งตัวในระยะนี้ ซึ่งจะมีผลต่อราคา PTTEP แกว่งตาม ประกอบกับดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มยังเป็นขาลงมีโอกาสหลุด 600 จุดได้อีกครั้ง
โบรกเกอร์บางรายมองว่า ในครึ่งปีหลังผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากการมีปริมาณปิโตรเลียมเพิ่มจากโครงการอาทิตย์, เวียดนาม 9-2 และอาทิตย์เหนือ ทำให้ทั้งปี PTTEP จะมีกำไรเพิ่มขึ้นราว 39% จากปีก่อน
ช่วงเช้าราคาหุ้น PTTEP ปิดที่ 136 บาท บวก 2 บาท (+1.49%)และเปิดภาคบ่ายราคายังทรงตัวในระดับนี้ โดยราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 137 บาท และต่ำสุดที่ 135 บาท โดยในวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTTEP ได้ปรับลงไปต่ำสุดที่ 115 บาท ถือเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 1 ปี
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.โกลเบล็ก ซื้อเก็งกำไร 209
บล.สินเอเซีย ซื้อ 189
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 188
บล.กิมเอ็ง ซื้อ 180
บล.นครหลวงไทย รออ่อนตัว -
บล.เคจีไอ ขายทำกำไร -
บล.เอเซียพลัส ขายทำกำไร-รอซื้อกลับ -
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย เห็นว่า หุ้น PTTEP เคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งเชื่อว่าราคาน้ำมันยังมีแรงเหวี่ยง หรืออาจจะยังไม่ได้อยู่ในขาขึ้นไปตลอดในช่วงนี้ ฉะนั้น ตัวหุ้น PTTEP จะมีแรงเหวี่ยงตามราคาน้ำมันด้วย
"แต่ด้วยพื้นฐานของบริษัทเอง ก็เป็นหุ้นที่พื้นฐานดี ถ้าสามารถลงทุนหุ้นระยะยาวได้ ผมก็โอเคนะ แต่ถ้าจะคาดหวังเข้ามาแค่สั้นๆ ผมคิดว่ายังเสี่ยง"นายสุกิจ กล่าว
แม้ว่าราคาน้ำมันขึ้นไป 10 กว่าเหรียญ/บาร์เรล ซึ่งราคาหุ้นวันนี้ได้ตอบรับไปแล้ว แต่แนวโน้มราคาน้ำมันพรุ่งนี้ก็ยังยากที่คาดเดา คาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันจะเป็น sideway up หรือ ยังมีโอกาสขึ้นได้บ้าง เพราะดอลลาร์อ่อนลง การเก็งกำไรราคาน้ำมันก็สูงขึ้น เพราะฉะนั้นหุ้น PTTEP ก็จะ sideway up เหมือนกัน
ดังนั้น หากราคาหุ้น PTTEP ลงมาก็น่าซื้อ แต่หากต้องการลงทุนระยะยาว คิดว่าซื้อวันนี้ก็ซื้อได้ เพราะราคาพื้นฐานสูงกว่าราคาทีเทรดอยู่ แม้ว่าจะต้องปรับลดลงมาตามภาวะตลาดรวมจากเดิมมูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 200 บาท โดยอาจปรับลงมาเป็นในช่วง 150-160 บาท ปัญหาคือเรื่องการจังหวะเข้าลงทุนมากกว่า
ขณะเดียวกันภาวะตลาดหุ้นในภาพรวม ยังต้องจับตาการแก้ไขปัญหาภาคสถาบันการเงินของสหรัฐ คาดว่าน่าจะรอไปถึงสิ้นเดือน ก.ย.และคิดว่าเดือน ต.ค.น่าจะมีอะไรชัดเจนมากขึ้น และหลาย ๆ อย่างน่าจะจบลงได้ มองโดยรวมตลาดหุ้นไทยเดือนหน้าน่าจะดีกว่าเดือนนี้
ด้านนายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)กล่าวว่า ราคาหุ้น PTTEP ปรับขึ้นรับผลดีจากราคาน้ำมันโลกปรับขึ้น ไม่มีสาเหตุอื่น แต่เพราะหุ้น PTTEP เป็นหุ้นที่โยงกับดัชนีหุ้นไทย ถือว่าเป็นหุ้นตลาด สิ่งที่ต้องติดตามคือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
"ขณะนี้ราคาหุ้น PTTEP กำลังทดสอบแนวต้านอยู่ที่ 136-140 เพราะฉะนั้นอยากให้ทำกำไรระยะสั้นมากกว่า ยังไม่แนะนำให้เก็บ เพราะมองว่าหุ้น PTTEP เป็นหุ้นตลาด ซึ่งมองว่าตลาดยังจะไม่ดี ให้เข้าลงทุนเพื่อเก็งกำไรราคาน้ำมันระยะสั้น"นายอภิศักดิ์ กล่าว
เช่นเดียวกับนายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส กล่าว แนะนำให้ขายหุ้น PTTEP เพื่อทำกำไรไปก่อน เพราะตลาดรวมยังไม่ดี จากที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายออก ขณะที่ราคน้ำมันโลกแม้จะปรับขึ้นกว่า 10 เหรียญ/บาร์เรล แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาเพียง 2-3 บาทเท่านั้น และมองในทางกลับกันหากราคาน้ำมันปรับตัวลงราคาหุ้น PTTEP ก็จะปรับลงไปตามไปด้วย
"คิดว่าถ้าได้หุ้นที่ลงมา 120 บาท ก็น่าจะขายทำกำไรก่อน แนวต้านอยู่ที่ 140 บาท แนวรับ 126 บาท
ถ้าเล่นสั้นขายทิ้งไปรอรับที่ 126 ถ้าเล่นยาวก็รอลุ้นมาตรการของรัฐบาลสหรัฐ ถ้าหลุด 120 แล้วค่อยขาย"นายภูวดล กล่าว
ทั้งนี เขามองว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มหลุด 600 จุด โดยมีแนวรับที่ 580-590 จุด ภายในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งมองว่าเป็นจังหวะที่เข้าซื้อ PTTEP รวมถึงหุ้นพื้นฐานดีอื่นด้วย
วานนี้ ราคาน้ำมัน Nymex ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 16.37 เหรียญ/บาร์เรล เป็น 120.92 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงอย่างมากในวันเดียวเป็นประวัติการณ์เพิ่มความวิตกอีกครั้งเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามราคาน้ำมัน Nymex ส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 6.62 เหรียญ/บาร์เรล มาที่ 109.37 เหรียญ/บาร์เรล
ส่วนบล.โกลเบล็ก แนะนำให้ซื้อเก็งกำไร เพราะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากราคาน้ำมันที่พุ่งต่อ โดยเน้นที่แนวรับ 124/125 เป็นจุดพิจารณาซื้อเก็งกำไร ส่วนแนวต้านอยู่ที 140/144
บทวิเคราะห์ของบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)คาดว่า ราคาจำหน่ายปิโตรเลียมในครึ่งปีหลังจะยังโดดเด่นเหมือนในในครึ่งปีแรก ยิ่งราคาก๊าซที่มีสัดส่วนการจำหน่ายประมาณ 75% ของปริมาณปิโตรเลียมที่จำหน่ายทั้งหมด ไม่ค่อยได้รับความผันผวนมากนัก ทำให้คาดว่าระดับราคาจำหน่ายเฉลี่ยของบริษัทจะไม่ได้ลดลงไปจากครึ่งปีแรก
เราคาดว่าปริมาณการจำหน่ายปิโตรเลียมที่เติบโตมากในครึ่งปีหลังจากการเปิดโครงการอาทิตย์, เวียดนาม 9-2 และอาทิตย์เหนือ จะเป็นปัจจัยหลักผลักดันให้บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิในปีนี้ได้ 39,618 ล้านบาท คิดเป็น กำไรต่อหุ้น 12.06 บาท เติบโต 39% จากปีก่อน
ทั้งนี้ ราคาหุ้น PTTEP มีทิศทางสัมพันธ์ไปกับราคาน้ำมันดิบ จากการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันดิบกับราคาหุ้นของ PTTEP ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราจะพบว่าราคาหุ้นของ PTTEP มีความสัมพันธ์ไปในทางเดียวกันกับราคาน้ำมันอยู่ที่ 91.7% หมายความว่าหากราคาน้ำมันปรับขึ้น มีโอกาส 91.7% ที่ราคาหุ้นของ PTTEP จะปรับขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน
ดังนั้น ราคาน้ำมันดิบมีผลค่อนข้างมากต่อราคาหุ้นของ PTTEP นอกจากจะมีผลต่อราคาจำหน่ายปิโตรเลียมของบริษัท ยังมีผลต่อรายได้และผลกำไร ซึ่งนำไปสู่การปรับตัวของราคาหุ้นอีกด้วย ดังนั้น การลงทุนในหุ้นของบริษัทจึงมีปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดทิศทางราคาหุ้น ซึ่งนักลงทุนจะต้องติดตามแนวโน้มราคาน้ำมันประกอบการลงทุน
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--