นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)เปิดเผยว่า กรณีวิกฤตนมที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ส่งผลให้นานาประเทศทั่วโลกขาดความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภและระมัดระวังในการนำเข้าสินค้าอาหารจากจีนเป็นอย่างมาก sลายๆประเทศต่างหันมานำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง CPF และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารทั้งหมด
ทั้งนี้ จะเห็นได้จากคำสั่งซื้อของลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากทุกประเทศให้ความเชื่อมั่นในมาตรฐานอาหารปลอดภัยหรือ Food Safety ของ CPF ที่สามารถดำเนินการตรวจสอบย้อนกลับ(Traceability)ถึงแหล่งที่มาได้ในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยมาตรฐานระดับสากลที่รองรับอย่างครบถ้วน ได้แก่ GMP , HACCP, ISO 9002, ISO14001, TIS18001, ISO 17025, HALAL รวมไปถึง Animal welfare ครอบคลุมตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ไปจนถึงการแปรรูปเป็นอาหาร หรือที่เรียกว่า from farm to table
ส่วนวิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกาที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบไปทั่วโลกนั้น แต่ในอุตสาหกรรมอาหารกลับไม่ได้ผลกระทบ เนื่องจากอาหารเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ประกอบกับระดับราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง ทำให้ต้นทุนการผลิตอาหารแปรรูปของซีพีเอฟลดลงตามไปด้วย และซีพีเอฟเน้นการผลิตในอาหารแปรรูป
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศนั้น CPF กำลังจะเปิดดำเนินกิจการโรงงานอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงสุกรที่ทันสมัยทึ่สุดในโลกในประเทศรัสเซียในเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มสดใสดีมาก เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่ขาดแคลนอาหารสัตว์และเนื้อสัตว์ ขณะที่ชาวรัสเซียนิยมบริโภคเนื้อสุกรอย่างมาก ถึงขนาดเป็นผู้นำเข้าเนื้อสุกรอันดับต้นๆ ของโลก
"จากสถานการณ์ดังกล่าวเชื่อว่า CPF จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ส่งผลโดยตรงต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลังที่จะเป็นไปตามเป้าหมายด้วยยอดขาย 150,000 ล้านบาท และจะสดใสต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งปี 2009 (พ.ศ.2552) ด้วย" นายอดิเรก กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--