นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาส 3/51 คงลดลงจากช่วงไตรมาส 2/51 จากผลกระทบการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่ กทม. ทำให้ยอดเข้าพักในโรงแรมของบริษัทปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ในไตรมาส 4/51 จะฟื้นตัวกลับมาดีอีกครั้ง เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวในประเทศไทย และน่าจะทำให้รายได้และกำไรทั้งปีนี้ของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมาย โดยรายได้เติบโต 15% กำไรเติบโต 20% โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรกรายได้ดีกว่าเป้า
ขณะที่วิกฤติสถาบันการเงินของสหรัฐที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกนั้น ยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อบริษัท และเชื่อว่ากำลังซื้อทั้งในธุรกิจอาหารและโรงแรมยังน่าจะมีตามปกติ
"รายได้ก็มั่นใจว่าไม่กระทบเพราะวิกฤตครั้งนี้ยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงเหมือนต้มยำกุ้ง หรือตอนเกิดโรคซาร์ส เชื่อว่ากำลังซื้อยังมีทั้งในอาหารและโรงแรม"นางปรารถนา
ส่วนการเจรจาซื้อแบรนด์ใหม่ในธุรกิจอาหารเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังคงไม่มีความคืบหน้า โดยหุ้นกู้ที่จะเสนอขายจำนวน 1.5 พันล้านบาทในเดือนต.ค.นี้ จะนำมาลงทุนในธุรกิจโรงแรม
“บริษัทได้บริหารความเสี่ยงของกิจการโดยกระจายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ ทั้งธุรกิจโรงแรมและอาหาร รวมทั้งเพิ่มรายได้ให้บริษัท เพราะหากประเทศใดประสบปัญหาจะไม่กระเทือนต่อบริษัทมากนักและพยายามมองวิกฤตการเงินในสหรัฐให้เป็นโอกาสในการลงทุนซึ่งจะมีสินทรัพย์ที่ดีราคาถูกออกมาให้ซื้อ"นางปรารถนา กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--