บมจ.เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 25 ก.ย.นี้มีมติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แปซิฟิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด(PM) จากบมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR) และผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นทั้งหมดของ PM และซื้อหุ้นสามัญของบริษัท มีเดีย เน็ตเวิร์ก รีเทล จำกัด (MNR) จากผู้ถือหุ้นทั้งหมดของ MNR โดยการซื้อหุ้นทั้งสองบริษัทจะมีการแลกหุ้นกับ MPIC
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น MPIC ไม่ให้ความเห็นชอบแผนงานดังกล่าว แต่คณะกรรมการบของบริษัทได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการเข้าซื้อหุ้นใน PM และ MNR นั้น ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท และคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องได้ตกลงที่จะทำการซื้อขายหุ้นดังกล่าวต่อไป
สำหรับรายละเอียดของแผนงานดังกล่าว ได้กำหนดราคาซื้อหุ้นสามัญใน PM จำนวน 10,000,000 หุ้นใหม่ จากเดิมราคาหุ้นละ 39.4944 บาท เป็นราคาหุ้นละ 39.50 บาท ดังนั้นอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้น(Share Swap Ratio) จึงเปลี่ยนแปลงใหม่ จากเดิม 9.68 หุ้นใหม่ของบริษัท ต่อ 1 หุ้นของ PM เป็น 10 หุ้นใหม่ของบริษัท ต่อ 1 หุ้นของ PM ดังนั้น จากการกำหนดราคาซื้อหุ้นและอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นใหม่ดังกล่าวจะส่งผลให้ Major ถือหุ้นในบริษัทเพิ่มขึ้นจากเดิม 93,895,952 หุ้น เป็น 96,999,950 หุ้น รวมจำนวนหุ้นทั้งสิ้นที่ Major ถือในบริษัทภายหลังการซื้อขายหุ้นจะเป็น 243,920,064 หุ้น
กำหนดราคาซื้อหุ้นสามัญใน MNR จำนวน 4,000,000 หุ้นใหม่ จากเดิมราคาหุ้นละ 75.4800 บาท เป็น 75.5438 บาท ดังนั้น อัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้น (Share Swap Ratio) จึงเปลี่ยนแปลงไป จากเดิม 18.50 หุ้นใหม่ของบริษัท ต่อ 1 หุ้นของ MNR เป็น 19.125 หุ้นใหม่ของบริษัท ต่อ 1 หุ้นของ MNR ดังนั้น จากการแก้ไขราคาซื้อหุ้นและอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นใหม่ดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ขายถือหุ้นในบริษัท จากเดิม 74,000,000 หุ้น เป็น 76,500,000 หุ้น
และ อนุมัติการแก้ไขการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 290,800,000 บาท เป็น ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 296,500,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 296,500,000 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จากเดิมจำนวน 170,800,000 หุ้น เป็น 176,500,000 หุ้น เพื่อใช้ในการทำ Share Swap โดยใช้ชำระแทนค่าหุ้นของ PM และ MNR
พร้อมทั้ง จัดสรรหุ้นสามัญ จำนวนเท่าเดิม คือ 120,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้ก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ในอัตราส่วนเดิมที่กำหนดไว้ คือ 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาจองซื้อที่กำหนดใหม่ จากเดิมหุ้นละ 2.75 บาท เป็นหุ้นละ 2.25 บาท
คณะกรรมการฯ อนุมัติให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3/2551 ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา 10.00 น. โดยให้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2551 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดพักการโอนหุ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551
และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 2 ธันวาคม 2551 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดพักการโอนหุ้นในวันที่ 3 ธันวาคม 2551
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--