นายพงษ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะไซต์เวย์-อัพ แต่ระหว่างเทรดอาจมีการผันผวนได้เช่นกัน เนื่องจากวอลุ่มเทรดที่ยังน้อยอยู่ทำให้สามารถเกิดแรงเหวี่ยงได้มาก และเชื่อว่าวอลุ่มเทรดของตลาดฯช่วงนี้น่าจะยังจำกัดอยู่
โดยมองว่าตลาดฯน่าจะได้รับแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ซึ่งไม่ใช่คนไทยเท่านั้นที่ทำ มองว่าต่างชาติก็ทำได้ด้วยเช่นกัน โดยต่างประเทศอาจจะเข้ามาซื้อหุ้นคืนบางส่วนก็ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าต่างชาติขายหุ้นออกมาไม่มากแล้ว
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้ปรับตัวลงมามากแล้ว จนเข้าเขต Oversold มานานแล้ว ทั้งที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดฯมีเสถียรภาพในการทำผลกำไรได้ค่อนข้างดี และปัจจุบันเงินบาทค่อนข้างจะมีเสถียรภาพ ขณะที่ปัจจัยการเมืองก็ไม่ได้มีน้ำหนักต่อตลาดฯมากในช่วงนี้
ส่วนมาตรการแผนกู้วิกฤตการเงินในสหรัฐฯ โดยใช้งบฯ 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะนี้ได้มีการจับตาดูกันว่าเมื่อได้งบฯมาแล้วจะมีการจัดการอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องติดตาม
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 615-630 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(25 ก.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,022.06 จุด เพิ่มขึ้น 196.89 จุด(+1.82%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,209.18 จุด เพิ่มขึ้น 23.31 จุด(+1.97%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,186.57 จุด เพิ่มขึ้น 30.89 จุด (+1.43%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 660.20 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดวานนี้ที่ 108.02 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.29 ดอลลาร์หรือ 2.17%
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้จะพิจารณาร่างนโยบายรัฐบาลเพื่อเตรียมแถลงต่อรัฐสภาภายในวันที่ 8 ต.ค.นี้ โดยประกอบด้วยนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการในปีแรก 14 ด้าน นโยบายหลัก 8 ด้าน และนโยบายย่อยอีก 14 ด้าน ซึ่งนโยบายทั้งหมดจะดำเนินการภายใน 3 ปี
- ผู้ว่าการ ธปท.เผยเตรียมแพ็คเกจอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ หากปัญหาสถาบันการเงินสหรัฐลุกลามกระทบไทย ระบุเงินไหลออกน้อยและสถานการณ์ขณะนี้ต่างจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ขณะที่ 'บุช' แถลงขอความสนับสนุนแผนฟื้นสถาบันการเงิน 7 แสนล้านดอลล์ ย้ำเศรษฐกิจสหรัฐอันตราย-ไม่ใช่ภาวะปกติ คาดคองเกรสอนุมัติแผน ประกาศใช้ในสัปดาห์หน้า
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยการส่งออกของไทยปี 2552 จะไม่โตเหมือนปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวเพียง 8-10% เนื่องจากวิกฤตของสหรัฐลามไปญี่ปุ่นและอียูกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติต้องรออีก 3 ปี
- ปลัดกระทรวงพลังงาน เผยถึงสถานการณ์เอทานอลในขณะนี้ว่า กำลังการผลิตอาจตึงตัวบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นขาดแคลน จนส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ โดยผู้ค้าน้ำมันทุกรายยังสามารถจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ได้ตามปกติ แต่กรณีที่บริษัทเชลล์ออกมาระบุว่าจะเกิดปัญหาขาดแคลนเอทานอล เป็นเพราะไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารงานมากกว่า เพราะผู้ค้ารายอื่นๆ มีการเตรียมสต๊อกเอทานอลไว้ และมีการบริหารจัดการที่ดี
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เตือน ผู้เอาประกันภัยอย่าแห่ถอนกรมธรรม์ ก่อนครบกำหนดสัญญา เพราะตื่นตระหนกจากเหตุการณ์ที่ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ หรือเอไอจี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ของบริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลอินชัวรันส์ หรือเอไอเอ ขาดสภาพคล่อง
- การส่งออกสินเค้าเกษตรของไทยไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวแต่อย่างใด เนื่องจากสินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่ทุกคนจำเป็นต้องบริโภคทุกวัน
- "ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล"ในฐานะประธานคณะติดตามประสานงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาวะฉุกเฉิน เผยสถานการณ์วิกฤตการเงินสหรัฐนั้นยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการเงินของไทย ด้านธุรกิจประกันภัยก็ยังดำเนินงานได้ดีและมีความมั่นคง ส่วนตลาดหุ้นก็ยังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัทจดทะเบียน
- สศค.ปรับลดประมาณการจีดีพี ปีนี้เหลือ 5.1% จากเดิม 5.6% หลังเครื่องชี้เศรษฐกิจทุกด้านปรับลดลงตามภาวะเศรษฐกิจนอกประเทศและปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองภายใน โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุน เผยยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ส.ค.ขยายตัวลดลงเหลือ 9.5% จาก 23.3% ในเดือนก่อนหน้า
- ตลท.ปรับเกณฑ์รับหลักทรัพย์ ให้บริษัท mai ทุนจดทะเบียนสูงกว่า 300 ล้านบาท เป็นบริษัทจดทะเบียนตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่ยังคงเทรดในตลาดเดิม เพื่อเอื้อประโยชน์รับมาตรการลดหย่อนภาษี พร้อมยืดเวลาให้ภาษีแก่บริษัทที่ยื่นขอเข้าจดทะเบียนปีนี้ เทรดปีหน้า 52
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยค่าเงินบาทในปี 2552 จะผันผวนตามการเคลื่อนย้ายเงินทุนและดุลบัญชีดุลสะพัด โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 33-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนในปีนี้คาดว่าเงินบาทจะไต่อยู่ในระดับ 33.2 บาท/เหรียญสหรัฐ ซึ่งปรับขึ้นมาจากที่เคยคาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับ 32.80 บาท/เหรียญสหรัฐ
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--