ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลสหรัฐเสนอต่อสภาคองเกรส เนื่องจากยังมีสมาชิกสภาคองเกรสบางกลุ่มคัคค้าน นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าวอชิงตัน มูชวล ล้มละลายได้ฉุดหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงอย่างหนัก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 108.5 จุด ปิดที่ 5,088.5 จุด
โฮเวิร์ด วีลดัน นักวิเคราะห์จาก BGC Partners ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า ความกังวลที่ว่าแผนฟื้นฟูภาคการเงินของสหรัฐจะไม่ผ่านมติสภาคองเกรส และข่าวการล้มละลายของวอชิงตัน มูชวล ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงินอย่างหนัก และฉุดดัชนี FTSE 100 ปิดในแดนลบ
การเจรจาเพื่ออนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐอาจไม่ราบรื่นเท่าที่มีการประเมินไว้ เมื่อคริสโตเฟอร์ ด็อดด์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภากล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า ในเบื้องต้นนั้นวุฒิสภาเห็นชอบในหลักการของแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ แต่แผนการดังกล่าวอาจไม่ราบรื่นเมื่อสมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันบางคนยื่นข้อเสนอทางเลือกอื่นในการคลี่คลายวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งสมาชิกของรีพับลิกันเหล่านี้มีนายอิริก แคนเตอร์ เป็นผู้นำทีม
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงหลังจากมีข่าวว่า เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ตัดสินใจเข้าซื้อทรัพย์สินของวอชิงตัน มูชวล สถาบันการเงินประเภทออมทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในสหรัฐ หลังจากวอชิงตัน มูชวล เผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงินจนบรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (FDIC) ต้องเข้ายึดกิจการบริษัท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการล้มละลายครั้งใหญ่เท่าที่เกิดขึ้นในแวดวงธนาคารของสหรัฐ
หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 5.7% หุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 8.1% หุ้นแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ ซึ่งเป็นสถาบันปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านรายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 5.9%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลง โดยหุ้นบีพีดิ่งลง 1.9% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ร่วงลง 1.9%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--