บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)เตรียมผลักดันให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.)เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการดีเด่นติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกในปี 2552 หลังเปิดให้บริการมาครบ 2 ปีแล้ว
"ในปีที่ผ่านมาเราได้เร่งปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการต่างๆ ในหลายด้าน ปีนี้เราต้องทำงานกันหนักกว่าเดิม เพื่อปรับปรุงการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้ ทสภ.เป็นท่าอากาศยานชั้นนำที่มีการบริการดีเด่นให้ได้ ซึ่งเราตั้งเป้าเอาไว้แล้วว่าอย่างน้อยต้องให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีการบริการดีเด่นของโลกในปี 2552 ให้ได้"นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าว
ทสภ.ได้รับคัดเลือกให้เป็นท่าอากาศยานดีเด่นอันดับ 3 ของโลก จากการประกาศผลรางวัล Wanderlust Travel Awards 2008 ซึ่งนิตยสาร Wanderlust ซึ่งเป็นนิตยสารท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศอังกฤษเป็นผู้จัดขึ้น โดยรวบรวมมาจากผลโหวตของผู้อ่านนิตยสารกว่า 3,000 คน
วันนี้ ทสภ.เปิดให้บริการมาครบ 2 ปี มียอดผู้โดยสารใช้บริการรวมทั้งสิ้นกว่า 80 ล้านคน แยกเป็นยอดผู้โดยสารที่มาใช้บริการในปีแรกระหว่างเดือน ต.ค.49-ก.ย.50 จำนวน 41.931 ล้านคน และในปีนี้ระหว่างเดือน ต.ค.50-ส.ค.51 จำนวน 38.589 ล้านคน และคาดว่ายอดจำนวนผู้โดยสารในปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.นี้น่าจะอยู่ที่ 41.14 ล้านคน
ส่วนของการให้บริการขนถ่ายสินค้าทางอากาศนั้นมีตัวเลขการใช้บริการรวมแล้วกว่า 2.42 ล้านตัน โดยมีตัวเลขปริมาณการขนถ่ายสินค้าของปีแรกที่เปิดให้บริการระหว่างเดือน ต.ค.49-ก.ย.50 จำนวน 1.234 ล้านตัน และในปีนี้ระหว่างเดือน ต.ค.50-ส.ค.51 จำนวน 1.192 ล้านตัน และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณจะมีตัวเลขการใช้บริการประมาณ 1.29 ล้านตัน สำหรับในส่วนของสายการบินที่ทำการบินที่ ทสภ.มีจำนวนทั้งสิ้น 111 สายการบิน แบ่งเป็น สายการบินสำหรับขนส่งผู้โดยสาร 97 สาย และสายการบินขนส่งสินค้า 14 สาย
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า การดำเนินงานในปีที่ผ่านมาได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องห้องน้ำที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเสร็จแล้วอีก 116 ห้อง รวมเป็น 1,580 ห้อง, การจัดระเบียบพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศใหม่ให้มีพื้นที่ใช้บริการมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ไม่ปะปนกับผู้มารอรับ อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพเข้ามารบกวนผู้โดยสาร, การย้ายจุดจอดรถแท็กซี่จากชั้น 1 ขึ้นจอดหน้าชานชาลาชั้น 2 เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินออกไปพบจุดให้บริการรถแท็กซี่ได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น,
การจัดให้รถโดยสารประจำทาง ขสมก. รถตู้ และรถโดยสารระหว่างเมืองวิ่งเข้าไปรับส่งผู้โดยสารที่ตัวอาคารผู้โดยสารได้, การเพิ่มจำนวน และปรับเปลี่ยนป้ายบอกทิศทางภายในอาคารผู้โดยสารให้เห็นชัดเจน, การแก้ไขปัญหาทางวิ่งทางขับ, การเริ่มใช้ระบบ Swing Gate เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารในช่วงเวลาคับคั่งระหว่าง 23.00 — 01.30 น. และการจัดตั้งศูนย์บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ One Stop Service ให้เป็นศูนย์บริการเบ็ดเสร็จแบบครบวงจร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการด้านต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นต้น
การปรับปรุงการให้บริการต่างๆ เหล่านี้ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการที่ ทสภ. เพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากผลสำรวจความพึงพอใจจากผู้โดยสารในแต่ละไตรมาสที่ผ่านมา ผู้โดยสารได้ให้คะแนนพึงพอใจในการใช้บริการด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การจัดอันดับของ ทสภ.ในโครงการ Airport Service Quality (ASQ) ซึ่งเป็นโครงการของ Airports Council International (ACI) เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับ
สำหรับการก้าวย่างขึ้นสู่ปีที่ 3 นี้ ทสภ.ยังมีแผนงานที่จะต้องเข้าไปเร่งรัดดำเนินการอีกหลายด้าน ทั้งในเรื่องรถเข็นกระเป๋าที่จะต้องเร่งรัดให้ผู้รับจ้างจัดหารถเข็นกระเป๋าที่ให้บริการได้ครบตามสัญญา และจะมีการพิจารณาปรับปรุงรถเข็นกระเป๋าใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล มีรูปลักษณ์สวยงาม ดูทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งาน
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น การจัดจุดตรวจค้นให้เป็นแบบ Centralize Security Screening อีกทั้งยังมีแผนติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมทั้งภายในและภายนอกอาคารผู้โดยสารอีก 755 ตัว จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1,074 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการให้สูงยิ่งขึ้น, การกั้นพื้นที่บริเวณ Check in ให้เป็นพื้นที่เขตห้ามสำหรับผู้โดยสารโดยเฉพาะ การปรับปรุงเรื่องเก้าอี้พักคอยให้เป็นแบบหุ้มเบาะ, การติดฟิลม์กรองแสงหลังคาอาคารผู้โดยสาร เพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้เข้าตัวอาคาร เป็นต้น
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--