ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 2.94% หลังแผนฟื้นฟูสหรัฐไม่ผ่าน ยังไม่วางใจหวั่นยุโรปร่วงต่อ

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 583.59 จุด ลดลง 17.70 จุด(-2.94%) มูลค่าการซื้อขาย 11,961 ล้านบาท 
          การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อไหวในแดนลบตลอดภาคเช้า โดยแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ 568.18 จุด แต่ดัชนีก็ค่อยๆปรับตัวขึ้นแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 584.93 จุด
          นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส(ASP)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงตามคาด เป็นสาเหตุจากเรื่องที่สภาคองเกรสคว่ำแผนฟื้นฟูวิกฤติการเงินของสหรัฐฯ 7 แสนล้านเหรียญเรื่องเดียว แต่หุ้นไทยที่ลงมาไม่ได้รุนแรงมากเพราะส่วนหนึ่งได้มีการตอบรับไปตั้งแต่เมื่อวานเพราะระหว่างเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลงมากว่า 100 จุด เมื่อวานหุ้นไทยดูดซับไปแล้วบางส่วน
          ขณะที่ตลาดต่างประเทศวันนี้ไม่ได้แรงมากเช่นกัน จะเห็นนิกเคอิลงไป 500 กว่าจุด ดีดกลับเหลือลบแค่ 390 จุด ขณะที่ฮั่งเส็งก็ผ่อนคลายจึงมองระดับ 570-580 จุดของหุ้นไทยก็น่าจะอยู่ได้ในช่วงเวลาแบบนี้ หลังจากนี้ไปเป็นช่วงที่ต้องติดตามดูความคืบหน้าของแผนต่างๆ แต่เชื่อว่า downside จากตรงนี้ไม่กว้างใหญ่มากยังสบายใจได้ PE แถว 570 กว่าจุดเป็น PE ระดับ 8 เท่า ถือว่ายังอยู่ในกรอบที่เราคาดหวังอยู่
          "ทางเอเชียเปิดตลาดร่วงแรง จากนั้นก็รีบาวน์ได้ เพราะมีการตอบรับไปแล้วบางส่วนเมื่อวาน" นายเทิดศักดิ์ กล่าว          
          แนวโน้มช่วงบ่ายต้องดูทิศทางของตลาดยุโรปที่จะเปิดว่าจะมีอะไรที่ตกใจหรือปรับลงแรงๆอีกหรือไม่ ต้องติดตามดู 
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 1,105.79 ล้านบาท ปิดที่ 222.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,009.28 ล้านบาท ปิดที่ 124.00 บาท ลดลง  6.00 บาท
          BBL   มูลค่าการซื้อขาย   817.81 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท ลดลง  3.00 บาท 
          BANPU มูลค่าการซื้อขาย   759.21 ล้านบาท ปิดที่ 288.00 บาท ลดลง 16.00 บาท
          KBANK มูลค่าการซื้อขาย   614.62 ล้านบาท ปิดที่  61.00 บาท ลดลง  1.00 บาท