รัฐบาลเกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินโดนีเซียได้พร้อมใจกันออกกฎเหล็กห้ามมิให้นักลงทุนทำธุรกรรมช็อตเซลล์ในตลาดหุ้น เพื่อป้องกันมิให้ราคาหุ้นในตลาดโลกเหวี่ยงตัวลงแรงจากภาวะตื่นตระหนก หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่รับแผนฟื้นฟูวิกฤตการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
เจ้าหน้าที่กำกับดูแลในเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีใต้เตรียมใช้มาตรการห้ามนักลงทุนทำช็อตเซลล์ในหุ้นทุกกลุ่มเป็นการชั่วคราว เพื่อประคับประคองดัชนีที่ดิ่งร่วงลงไปแล้วถึง 20% ในปีนี้ ขณะที่ไต้หวันสั่งมาตรการจำกัดการทำช็อตเซลล์หุ้นอย่างเข้มงวดในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยจะตีกรอบการทำธุรกรรมดังกล่าวให้อยู่ที่ระดับ 10% ของหุ้นจดทะเบียนต่อวัน จากเดิมที่ 25%
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นอินโดนีเซียได้สั่งห้ามทำช็อตเซลล์ตลอดทั้งเดือนต.ค.นี้ โดยอ้างถึงปัญหาความไร้เสถียรภาพ ส่วนฮ่องกงเตรียมใช้มาตรการในเชิงรุกมากขึ้นเพื่อสกัดกั้นการลักลอบทำช็อตเซลล์
ทั้งนี้ มาตรการต่างๆที่กำหนดโดยเจ้าหน้าที่กำกับดูแลในตลาดเอเชียมีขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของสหรัฐ อังกฤษ และออสเตรเลียได้ประกาศใช้มาตรการนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12.33 น. ตามเวลาท้องถิ่น ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดิ่งลง 2% และดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันลดลง 5% โดยในปีนี้ดัชนีเวทเต็ดดิ่งลงไปแล้ว 34% ขณะที่เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดลบ 0.7% แตะที่ 1,832.51 จุด โดยวันนี้ตลาดหุ้นดังกล่าวปิดทำการเนื่องในวันหยุดไปจนถึงวันที่ 3 ต.ค.นี้
ลิม ซอง แต เลขาธิการคณะกรรมการกำกับภาคการเงินเกาหลีใต้กล่าวว่า "ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่ปกคลุมด้วยบรรยากาศของความตื่นตระหนกนั้นเป็นผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา"
อย่างไรก็ดี ทางการเกาหลีใต้ยังไม่ได้ระบุระยะเวลาที่แน่ชัดว่าจะสิ้นสุดการใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อไหร่
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--