PTTCH ตั้งเป้าขยายลงทุนตปท.เพิ่มเป็น 1 ใน 4 ของเงินลงทุน,ร่วมPTTไปเวียดนาม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 1, 2008 13:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวีรศักดิ์ โฆษิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บมจ.ปตท.เคมิคอล (PTTCH) เปิดตัวแถลงข่าวครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง  เตรียมแผนมุ่งเน้นสร้างรายได้และลงทุนในต่างประเทศ โดยตั้งเป้าจะมีพอร์ตการลงทุนต่างประเทศเพิ่มเป็น  1 ใน 4  ของวงเงินลงทุนโดยรวมภายใน 5 ปี เน้นธุรกิจปิโตรเคมีอัพสตรีมที่สามารถต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัท
พร้อมมองประเทศที่เข้าลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนและมีความเป็นไปได้ลงทุนในโครงการปิโตรเคมีร่วมกับ บมจ.ปตท(PTT)ในเวียดนาม เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงมีประชากรจำนวนมากถึง 90 ล้านคน และยังมีไม่มีผู้ผลิตรายใหญ่
นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจลงทุนในประเทศจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ซึ่งทั้ง 4 ประเทศ มีสำนักงานของบริษัทตั้งอยู่ จึงง่ายต่อการต่อยอดการลงทุน ซึ่งนโยบายการลงทุนจะเป็นไปอย่างระมัดระวังและยืนยันว่าจะไม่กระทบฐานะการเงินแม้การลงทุนจะสูง โดยรูปแบบการลงทุนเป็นไปได้ 3 แนวทาง คือ การเข้าลงทุนเอง หรือ ซื้อกิจการ หรือ ร่วมลงทุนกับบริษัทอื่น
สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ นายวีรศักดิ์ ยังเชื่อว่า จะทำได้ตามเป้าที่ 9.97 หมื่นล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้าหมาย แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่แนวโน้มชะลอตัว แต่ยอดขายหลักของบริษัทยังทำได้ดี โดยเน้นตลาดเอเชีย ซึ่งยังเป็นตลาดหลักที่มีอัตราเติบโตสูง
นอกจากนี้ บริษัทจะมีกำลังการผลิตใหม่ที่กำลังจะออกมาในเบิ้องต้นอีก 1.5 ล้านตันในปลายปี 52 และจะผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 53 จึงคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 60% จากปี 51 ที่มีกำลังการผลิต 1.7 ล้านตัน ทั้งนี้ ยังไม่รวมกำลังการผลิตของบริษัทลูก คือ บริษัท ไทยโอลิโอเคมิคอล(TOL)ที่มีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 2 ล้านตัน
"หากนับรวมการผลิตที่อยู่ระหว่างการลงทุน บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3 ล้านตัน ทั้งนี้ยังไม่รวมกำลังกการผลิตจาก TOL 2 ล้านตัน ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดในปี 53 บริษัทจะมีกำลังการผลิตเป็น 5 ล้านตัน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามในเอเชีย"นายวีระศักดิ์ กล่าว
บริษัทยังมั่นใจว่าธุรกิจปิโตรเคมี โดยหากเข้าสู่ข่วงขาลงในปี 52 บริษัทยังมีความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากบริษัทใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตมากกว่าแนฟทา ต่างจากผู้ผลิตอื่นทีใช้แนฟทาเป็นหลักทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่า และบริษัทยังมีโอกาสแข่งขันอีกมาก
"นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้ เรายังไม่พบว่าธุรกิจปิโตรเคมีอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากราคาขายเม็ดพลาสติกยังอยู่ในระดับสูง อยู่ที่ประมาณ 1,300 เหรียญต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าช่วงพีคที่อยู่ระดับ 1,600-1,700 เหรียญ/ตัน แนวโน้มในไตรมาส 4/51 ก็เชื่อว่ายังดีอยู่ แต่ก็ขึ้นกับราคาน้ำมันซึ่งขณะนี้ผันผวนมาก"นายวีรศักดิ์ กล่าว
อนึ่ง นายวีรศักดิ์ เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTCH เริ่มตั้งแต่วันนี้ (1 ต.ค.51) แทนนายอดิเทพ พิศาลบุตร์ ที่ครบวาระแล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ