ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 19.59 จุด ขณะนลท.รอลุ้นผลลงมติแผนฟื้นฟูจากวุฒิสภา

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 2, 2008 06:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการลงมติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ของวุฒิสภาสหรัฐ ส่วนภาวะการซื้อขายค่อนข้างซบเซาหลักจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอเกินคาด ซึ่งบดบังข่าวด้านบวกที่ว่านายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ได้เข้าลงทุนในบริษัท เจนเนอรัล อิเล็กทริก มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 19.59 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 10,831.07 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 5.30 จุด หรือ 0.45% แตะที่ 1,161.06 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 22.48 จุด หรือ 1.07% แตะที่ 2,069.40 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.38 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 4
จิม ดูนิแกน นักวิเคราะห์จาก PNC Wealth Management กล่าวว่า "นักลงทุนลังเลที่จะเข้าลงทุนในล็อตใหญ่ๆก่อนที่วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งถูกคว่ำในการประชุมสภาคองเกรสไปเมื่อวันจันทร์ ขณะที่ภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานดัชนีภาคการผลิตที่ลดลงเกินคาด"
สำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนก.ย.ร่วงลงแตะระดับ 43.5 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 49.9 จุด ซึ่งลดลงมากว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน/ไอเอฟอาร์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 49.5 จุด
สตีเฟน วู๊ด นักวิเคราะห์จากบริษัท Insight Economics LLC ในรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ภาวะถดถอยในตลาดที่อยู่อาศัยได้ลุกลามไปยังอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมแทบจะทุกประเภท ขณะที่อัตราการผิดนัดชำระหนี้พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากสถาบันการเงินเพิ่มกฎข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้ อัตราว่างงานที่สูงขึ้นยังส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง ส่วนยอดส่งออกยังคงถดถอยเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ซึ่งฉุดรั้งความต้องการสินค้าจากสหรัฐให้ลดลงด้วย
นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดทั่วโลกกำลังจับตาดูว่า วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติ รับหรือไม่รับ แผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งแผนฉบับใหม่นี้จะครอบคลุมถึงการเพิ่มค้ำประกันวงเงินฝากธนาคารที่ได้รับการค้ำประกันโดย FDIC จาก 100,000 ดอลลาร์ เป็น 250,000 ดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่มีต่อสถาบันการเงิน
จอห์น โบห์เนอร์ หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาสนับสนุนแผนการดังกล่าว และเชื่อว่าจะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และเชื่อว่าการที่ FDIC เพิ่มการค้ำประกันวงเงินฝากธนาคารและการเพิ่มการให้ความคุ้มครองต่อผู้เสียภาษี จะสามารถดึงดูดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันได้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูข่าวที่ว่า บริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ของมหาเศรษฐีวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เข้าลงทุนในบริษัท เจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นจีอีปิดทรงตัวที่ 9.45 ดอลลาร์
ส่วนหุ้นฟอร์ดร่วงลง 12.5% หุ้นโตโยต้าดิ่งลง 2.2% แม้มีรายงานว่าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้ลงนามอนุมัติเงินกู้จำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ อาทิ เจนเนอรัล มอเตอร์, ฟอร์ด มอเตอร์, ไครสเลอร์ แอลแอลซี และค่ายรถยนต์รายอื่นๆกำลังต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อนำมาใช้ผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ