บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาทของ บมจ. ภัทรลิสซิ่ง (PL) ที่ระดับ “A-" พร้อมยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดเดิมที่ระดับ “A-" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่" โดยบริษัทจะนำรายได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ทดแทนหุ้นกู้ที่จะหมดอายุจำนวน 400 ล้านบาท และเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ
อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของผู้บริหารของบริษัทในการรักษาสถานะผู้นำตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ (Operating Lease) ในช่วงที่การแข่งขันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวย อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตและการบริหารมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์ให้เช่า (Residual Value) ที่ดีซึ่งทำให้บริษัทสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีในช่วงการขยายตัวของสินทรัพย์ให้เช่า ในการจัดอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความต้องการใช้บริการรถเช่าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเอกชน ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของภาวะแวดล้อมทางธุรกิจจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จำกัดความสามารถในการทำกำไรและการขยายธุรกิจของบริษัท
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และมีผลประกอบการในระยะปานกลางตามคาด โดยบริษัทน่าจะสามารถรักษาฐานลูกค้าสำคัญกลุ่มเดิมไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ในขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงและการขาดทุนที่คาดไม่ถึงอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทภัทรลิสซิ่งสามารถรักษาฐานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 24% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวม ณ สิ้นปี 2549 ของผู้ประกอบการรายใหญ่ 25 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง การขยายตัวของสินทรัพย์ให้เช่าและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอ่อนตัวลงเล็กน้อยในปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม 2548-กันยายน 2549) เนื่องจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมือง นอกจากนี้ ลูกค้ารายใหญ่ 2 รายซึ่งมีสัดส่วนสินทรัพย์ให้เช่าคงเหลือรวมกันคิดเป็น 22% ของมูลค่าสินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัทได้ตัดสินใจหยุดใช้บริการเช่าดำเนินงานรถยนต์จากบริษัทหลังหมดอายุสัญญา อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2550 ผู้บริหารของบริษัทได้พิสูจน์ความสามารถในการหาลูกค้ารายใหม่มาทดแทนลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 2 รายได้ มีผลให้ยอดสินทรัพย์ให้เช่าใหม่ของบริษัทฟื้นตัวขึ้นเกือบ 2 เท่า จาก 858 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2549 เป็น 1,553 ล้านบาทในปี
งบประมาณ 2550 ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 บริษัทมียอดสินทรัพย์ให้เช่าใหม่จำนวน 1,631 ล้านบาทซึ่งช่วยขยายยอดคงค้างสินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทให้เพิ่มขึ้นเป็น 4,499 ล้านบาท จาก 4,025 ล้านบาทเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2550 ปัจจุบัน สินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทมีการกระจายตัวที่ดีขึ้นกว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทริสเรทติ้งกล่าวว่ากำไรสุทธิของบริษัทภัทรลิสซิ่งฟื้นตัวอยู่ที่ระดับ 267 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2550 จาก 173 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2549 ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าเพิ่มขึ้นและได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 165 ล้านบาทซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ บริษัทขยายสินทรัพย์ด้วยการใช้เงินกู้ยืมเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีการก่อหนี้ในระดับสูง โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มจาก 63.93% ณ สิ้นปีงบประมาณ 2550 เป็น 67.08% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 บริษัทมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีจากการมีระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ณ เดือนมิถุนายน 2551 จำนวนค่าเช่าค้างชำระของบริษัทมีเพียง 3.58 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพียง 0.08% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวม การมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศและการมีฐานเงินทุนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นช่วยเพิ่มระดับความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ลูกค้ารายใหญ่
อย่างไรก็ตาม แม้ประเด็นดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของลูกค้ารายใหญ่ แต่ความเสี่ยงดังกล่าวได้รับการชดเชยจากปริมาณการค้างชำระค่าเช่าของลูกค้าที่อยู่ในระดับต่ำเพราะลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่มีฐานะทางการเงินที่น่าเชื่อถือ
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--