ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลง โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ และหุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ดิ่งลงหนักสุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 89.3 จุด แตะที่ 4,870.3 จุด หลังจาก เคลื่อนตัวในช่วง 4,862.1-5,052.0 จุด
นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 94 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์อาจไม่สามารถหนุนเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอยได้ และจะฉุดรั้งความต้องการพลังงานให้ลดลงด้วย
โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 2.9% หุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ร่วงลง 9.7% ส่วนหุ้นเวแดนตา รีซอสเซส ดิ่งลง 12% หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้นักลงทุน "ขาย" พร้อมกับใส่ชื่อหุ้นเวแนดตาไว้ในลิสต์ "conviction sell'' ด้วย
ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเหมืองแร่ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 3.9% หุ้นริโอ ตินโต ร่วงลง 5% หุ้นแองโกล อเมริกัน ดิ่งลง 6.1% หุ้นเอ็กซ์สตราตา ร่วงลง 9.5% หุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ดิ่งลง 10.8% และหุ้นคาซัคมิสดิ่งลง 11.9%
ส่วนหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ดีดขึ้น 8.1% แม้บริษัทเปิดเผยยอดขายร่วงลง 6.1%
เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ รายงานว่า ราคาบ้านโดยเฉลี่ยในอังกฤษร่วงลง 12.4% จากปีก่อนหน้านี้ แตะที่ 161,797 ปอนด์ (287,658 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นสถิติการดิ่งร่วงลงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจมาตั้งแต่ 17 ปีก่อน นอกจากนี้ ราคาบ้านยังดิ่งลง 1.7% จากเดือนส.ค. ส่งผลให้ราคาบ้านปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11
วิกฤตการณ์ในภาคธุรกิจธนาคารที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ได้กดดันให้ธนาคาร HBOS สถาบันการเงินผู้ปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษต้องขายกิจการ และบีบคั้นให้รัฐบาลเข้าเทคโอเวอร์แบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ ส่วนธนาคารอังกฤษอัดฉีดเม็ดเงินฉุกเฉินเข้าสู่ตลาดการเงิน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--