บมจ.เอสวีไอ (SVI) ตั้งเป้าปี 52 ทำรายได้ถึง 8 พันล้านบาท สูงขึ้นจากเป้า 7 พันล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากเชื่อว่าบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐไม่มากนัก แม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในสหรัฐและยุโรป แต่ก็เป็นผู้ผลิตที่รับสินค้าของบริษัทไปผลิตต่อเพื่อส่งไปจำหน่ายในตลาดเกิดใหม่
ส่วนในด้านกำไรนั้น ในปีนี้บริษัทได้รับประโยชน์การมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากโรงงานแห่งใหม่ ประกอบกับต้นทุนคงที่ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้เพิ่มขึ้นมาที่ 11.5% จากในปี 50 อยู่ที่ 10.9%
"วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท แม้ว่าบริษัทจะส่งออกยุโรปและอเมริกา 100% เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ผลิตและส่งออกไปยังประเทศเกิดใหม่ที่ได้รับผลกระทบน้อย อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจยังสูง แต่ช่วงสั้นอาจจะกระทบจิตวิทยาบ้าง แต่ภาพรวมในระยะยาวไม่น่าจะส่งผลกระทบ เรายังมั่นใจว่ารายได้จะโตต่อเนื่องตามที่ตั้งไว้" นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SVI กล่าว
ดังนั้น บริษัทยังเชื่อมั่นเป้าหมายปีนี้รายได้เติบโต 25% หรือ 7 พันล้านบาท ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทอยู่ในยุโรป 70% และสหรัฐ สัดส่วน 30% แต่ลูกค้าเป็นผู้ผลิตและส่งออกขายไปยังประเทศเกิดใหม่ เช่น จีน อินเดีย และ ยุโรปตะวันออก
ด้านการขายหุ้นของกองทุน H&Q ซึ่งปัจจุบันถือหุ้น 60%ที่กำหนดไว้ว่าจะขายออกภายในปีนี้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับหุ้นของบริษัทนั้น คาดว่าคงต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย
"เรายังยืนยันว่า กองทุน H&Q จะขายหุ้นที่ถืออยู่ออกมา แต่ยังหาผู้ซื้อไม่ได้และกำหนด deadline ภายในสิ้นปีนี้ ก็คงไม่ทัน คงต้องยืดเส้นตายออกไป แต่ยังไม่มีกำหนดว่าจะต่ออายุให้ถึงเมื่อไร คงต้องให้กองทุน H&Q เป็นคนกำหนด" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--