นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไพลอน (PYLON) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้รับงานรับเหมาฐานรากเข้ามาเพิ่มอีก 7 โครงการมูลค่ารวม 168 ล้านบาท(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ได้แก่ โครงการ เมโทร อเวนิว รัชโยธิน เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับอาคาร ของ บมจ. เมโทร สตาร์ พร๊อพเพอร์ตี้ (METRO) ระยะเวลาก่อสร้าง 75 วัน นับจากวันที่เริ่มเจาะเสาเข็มต้นแรก
โครงการ Four Points by Sheraton Bangkok Sathorn เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ของ บจ. ฮิบ เฮง คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) ระยะเวลาก่อสร้าง 60 วัน นับจากวันที่เริ่มเจาะเสาเข็มต้นแรก
โครงการ อพาร์ทเม้นท์ สูง 26 ชั้น ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ของ บจ. แคปปิตอล เรสซิเด้นท์ ระยะเวลาก่อสร้าง 45 วัน นับจากวันที่เริ่มเจาะเสาเข็มต้นแรก
โครงการ สุพรีม เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ของ บจ. สุพรีม สามเสน ระยะเวลาก่อสร้าง 113 วัน นับจากวันที่ส่งมอบพื้นที่
โครงการ เดอะ เซอร์เคิล เป็นเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ของ บจ. เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ ระยะเวลาก่อสร้าง 40 วัน นับจากวันที่เริ่มเจาะเสาเข็มต้นแรก
โครงการ Ethane Separation Plant & 6th Gas Separation Plant เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับโรงงานของ บจ. บาลานซ์ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ระยะเวลาก่อสร้าง 36 วัน นับจากวันที่ส่งมอบพื้นที่ และ โครงการ MTP - 156 MCB Distillation เป็นงานเสาเข็มเจาะสำหรับโรงงาน ของ บจ.บายเออร์ ไทย ระยะเวลาก่อสร้าง 7 วัน นับจากวันที่เริ่มเจาะเสาเข็มต้นแรก โดยโครงการทั้งหมด จะรับรู้รายได้ในปี 2551
นายบดินทร์ กล่าวว่า หลังจากบริษัทฯ ได้รับงานชุดดังกล่าวทำให้ปัจจุบันมี Backlog ในมือรอรับรู้เป็นรายจำนวน 210 ล้านบาท นอกจากนั้น ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเข้าประมูลโครงการภาครัฐและเอกชนอีกมูลค่ามากกว่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานไม่น้อยกว่า 20-25% ของงานที่เข้าร่วมประมูล และหากได้รับงานในโครงการจะกล่าว จะทยอยรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551
"ยังมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทฯ จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมามาก เนื่องจากได้บริหารงานอย่างระมัดระวัง ทำให้ในสามไตรมาสที่ผ่านมา PYLON ได้รับผลกระทบจากปัจจัยข้างต้นไม่มากนัก โดยในปีนี้คาดว่ารายได้จะทะลุเป้าหมายที่ระดับ 500-550 ล้านบาทได้แน่นอน ในขณะเดียวกันบริษัทฯ จะพยายามบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตลาดจะมีการแข่งขันด้านราคาเพิ่มมากขึ้น "
นายบดินทร์ กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในปีหน้าว่า เชื่อว่าสภาพการแข่งขันที่สูงน่าจะลดลง เมื่อการเมืองเริ่มคลี่คลาย และโครงการรถไฟฟ้าเริ่มก่อสร้างได้ในต้นปีหน้า อาทิ โครงการสายสีม่วง ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทฯอย่างชัดเจน เนื่องจากมีความพร้อมในการรับงานในโครงการขนาดใหญ่เป็นอย่างดี ทั้งด้านกระแสเงินสด ประสบการณ์ในโครงการขนาดใหญ่ รวมทั้ง เครื่องมือและบุคลากรที่มีอยู่อย่างครบครัน ซึ่งในปีหน้านี้ PYLON พร้อมจะเข้าร่วมงานกับผู้รับเหมาหลักในส่วนของงานฐานรากในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายอื่นๆ
นอกจากนั้น จะมุ่งขยายกลุ่มลูกค้าโดยเน้นเจาะกลุ่มผู้รับเหมาหลักที่ยังไม่เคยใช้บริการของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนงานภาคเอกชนจะยังคงเน้นตลาดคอนโดมิเนียมซึ่งน่าจะได้รับผลบวกจากโครงการรถไฟฟ้าที่จะเริ่มก่อสร้างได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลดีเพราะจะมีรายได้เข้ามาทั้งทางภาครัฐและเอกชน หลังจากในปีนี้งานส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นงานภาคเอกชนเป็นหลัก
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--