ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิกฤตการเงินลุกลามยุโรป ฉุดฟุตซี่ปิดร่วงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ 391.1 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามเข้าสู่ยุโรป โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลงอย่างหนัก
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดดิ่งลง 391.1 จุด หรือ 7.85% แตะที่ 4,589.2 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,549.7-4,980.3 จุด
          หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงหนักสุดเนื่องจากความหวั่นวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านการเงินที่ส่งผลกระทบถึงยุโรป โดยหุ้นธนาคาร บาร์เคลย์ส ดิ่งลง 14.7% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 18.3% และหุ้น HBOS ดิ่งลง 20.5% 
          ส่วนหุ้นในกลุ่มการเงินดิ่งลง โดยหุ้น ICAP ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ดิ่งลง 5.2% หุ้นแมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ดิ่งลง 18.1% หุ้นโอลด์ มิวชวล ร่วงลง 4.4% และหุ้นพรูเดนเชียลดิ่งลง 13.8% 
          หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลง โดยหุ้นคาซัคมิสและหุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ดิ่งลงหนักสุด โดยร่วงลง 26.5% และ 23.4% ตามลำดับ
          กลุ่มประเทศยุโรปได้จัดประชุมสุดยอดวาระพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามเข้าสู่ยุโรป โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสถาบันการเงินในยุโรปประสบปัญหา นับตั้งแต่ฟอร์ติส กลุ่มธุรกิจธนาคารและการประกันภัยยักษ์ใหญ่ของกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ (เบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก)  กลิตนีร์ ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของไอซ์แลนด์  เด็กเซีย ธนาคารสัญชาติเบลเยียม-ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้นำด้านพันธบัตรเทศบาลในยุโรป และล่าสุดรัฐบาลเยอรมนีตัดสินใจอุ้มกิจการบริษัท ไฮโป เรียล เอสเตท สถาบันการเงินด้านการจำนองอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเยอรมนี หลังจากไฮโป เรียลเอสเตท ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
          นายแอลิสเตอร์ ดาร์ลิง รมว.คลังอังกฤษเตรียมยื่นเสนอร่างกฎหมายการธนาคารต่อรัฐสภาอังกฤษในวันอังคาร เพื่อเพิ่มอำนาจพิเศษให้กับรัฐบาลอังกฤษและให้สิทธิอำนาจแก่ธนาคารกลางอังกฤษเป็นผู้รักษาเสถียรภาพทางการเงิน