PTTEP คาดรายได้Q4/51 กระทบจากน้ำมันดิ่ง/ทั้งปีจะสูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย

          บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เชื่อราคาน้ำมันลงแรงกระทบช่วงสั้น และคาดมีผลกระทบต่อรายได้ ในไตรมาส 4/51 บ้าง แต่เนื่องจากจะมีปริมาณก๊าซทยอยเข้ามาเพิ่มจากแหล่งเวีบดนาม และ แหล่งอาทิตย์เหนือ  คาดทั้งปีรายได้ปี 51 จะเพิ่มไม่มากจากปี 50 ที่มีรายได้ 9.67 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังคงเป้าปริมาณขาย 2.23 แสนบาร์เรล/วัน ในปีนี้ สูงกว่าปีก่อนที่มีปริมาณขาย 1.8 แสนบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 20% 
          นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP กล่าวว่า ถ้าภาวะราคาน้ำมันปรับลงคงมีผลบ้างกับผลประกอบการ แต่เห็นว่าคงเป็นระยะสั้น และโครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจากการขายก๊าซธรรมชาติ 70% และจากน้ำมัน 30% คงไม่ส่งผลกระทบหนัก โดยราคาก๊าซโยงกับราคาน้ำมันเล็กน้อย และใช้ราคาในอดีต ซึ่งคงจะยังไม่มีมีผลทันที 
          "ในไตรมาส 4 คงจะกระทบรายได้ไม่มาก เป้ารายได้ปีนี้เราตั้งไว้บนสมมติฐานที่ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 70 เหรียญ/บาร์เรล ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วที่เราทำประมาณการ โดยวานนี้ราคาปรับลงมาใกล้ระดับ 73 เหรียญ/บาร์เรล ...คาดว่ารายได้ในปี 51 จะสูงกว่าปี 50 เล็กน้อย ยังยืนยันปริมาณขายที่ 2.2 แสนบาร์เรล/วัน รายได้ไม่กระทบเพราะปริมาณเก๊าซเข้ามาเยอะ" นายอนนต์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"  
          อนึ่ง ระดับราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบในไตรมาส 3/51 อยู่ที่ 115.23 เหรียญ/บาร์เรล
          ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณการขายปีนี้ที่ 2.2 แสนบาร์เรล/วัน สูงกว่าปีก่อนที่มี  1.8 แสนบาร์เรล/วัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% โดยปีก่อนตั้งสมมติฐานน้ำมันดิบดูไบไว้ที่ 60-70 เหรียญ/บาร์เรล   
          คืนวานนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 6.07 ดอลลาร์ หรือ 6.47% ปิดที่ 87.81 ดอลลาร์/บาร์เรล  
          นายอนนต์ เห็นว่าถ้าราคาน้ำมันดิบดูไบ ยังยืนอยู่ได้ 70 กว่าเหรียญ/บาร์เรล ธุรกิจน้ำมันก็ยังไปได้ หากย้อนไปดูปีที่แล้วเราก็ยัง happy ที่ราคาน้ำมันดิบระดับกว่า 70 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งโดยปกติน้ำมันดิบในตลาด NYMEX สูงกว่า 5-10 เหรียญ/บาร์เรล
          ทั้งนี้ในไตรมาส 4 นี้ แหล่งก๊าซอาทิตย์เหนือเลื่อนการผลิตไปในเดือนพ.ย.จากต.ค. โดยมีปริมาณผลิต 100 ล้านลบ.ฟุต/วัน และ แหล่งเวียดนาม 9-2 ในไตรมาส 4 จะเริ่มผลิตโดยปีนี้จะทยอยผลิตให้ได้ 1 หมื่นลบ.ฟุต/วัน จากตั้งเป้าผลิตไว้ที่ 2 หมื่นลบ.ฟุต/วัน ซึ่งคาดว่าจะผลิตได้เต็มกำลังในปีหน้า 
          ส่วนปี 52 บริษัทจะมีปริมาณก๊าซเพิ่มเข้ามาอีก โดยมาจากแหล่งเจดีเอ หรือพื้นที่ร่วมไทย-มาเลเซีย เข้ามาไตรมาส 4ปี 52  มีปริมาณ  270 ล้านลบ.ฟุต/วัน 
          "ปตท.สผ.ดีอย่างที่ได้ปริมาณยอดขายก๊าซเพิ่มขึ้นทุกปี" นายอนนต์ กล่าว  
          ทั้งนี้ราคาน้ำมันโลกมีทิศทางปรับตัวลงมา คิดว่าก็คงเป็นระยะสั้นๆ ในช่วง 1-2 ปี ถ้าดูความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่ปริมาณน้ำมันเข้าตลาดก็ไม่ได้มีมาก สักระยก็คงกลับเข้ามาสู่สภาพตึงตัว บริษัทจึงไม่ได้ห่วงมาก เพราะการลงทุนของบริษัทเป็นการลงทุนระยะยาว 
          แม้วว่าภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว นายอนนต์ กล่าวว่าจะไม่กระทบแผนการลงทุน เพราะส่วนใหญ่เงินลงทุนของบริษัทอยู่ในประเทศ โครงการหลักๆอยู่ในประเทศ กับประเทศข้างเคียง เช่น พม่า และ เวียดนาม  ส่วนในพื้นที่ตะวันออกกลาง ยังไม่ได้ยกเลิก เพราะเป็นเพียงเริ่มต้นสำรวจเท่านั้น จึงจะยังไม่มีการชะลอเพราะยังไม่มีเงินลงทุนจำนวนมาก 
          ส่วนกระแสข่าวที่ PTTEP พร้อมเข้าสว็อปหุ้นแหล่งก๊าซในจีนนั้น นายอนนต์ปฏิเสธ และยืนยันว่า บริษัทไม่ได้มีความสนใจ น่าจะเป็นบมจ.ปตท.(PTT)  ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการแลกเปลี่ยนสิทธิ์ในสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract - PSC) แปลง M3 และ M4 ในสัดส่วน 20% กับแปลง A4 และ C1 ของ บริษัท CNOOC Myanmar Limited ที่สัดส่วนเดียวกัน
          ด้านบล.เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ผลประกอบการของ PTTEP ในปี 51 จะสูงกว่าที่เราประมาณการในกรอบ 5% โดยคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 43,103 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 13.07 บาท เพิ่มขึ้น 51 จากปีก่อน เนื่องจากสมมติฐานราคาน้ำมันดิบของเราอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน ขณะที่การคาดการณ์ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2551 คิดเป็น 76% ของที่เราประมาณการผลประกอบการปี 51
          ผลประกอบการยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างมาก ทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนเพิ่มขึ้น ยังคงคำแนะนำ ซื้อลงทุน PTTEP