โบรกฯเปลี่ยนมุมมอง BBL เป็นเก็บลงทุนยาวหลังมีความเสี่ยงเงินลงทุน ตปท.

          โบรกเกอร์เปลี่ยนมุมมองหุ้นธนาคารกรุงเทพ (BBL)จากเคยเป็นหุ้น Top Picks มาเป็น"ซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว"หรือบางโบรกฯแนะให้"ถือ"เพราะมีปัจจัยเสี่ยงจากการลงทุนหุ้นกู้เลห์แมน บราเธอร์ส ที่ทำให้ต้องตั้งด้อยค่า 65% ของเงินลงทุน 3.5 พันล้านบาท หรือประมาณ 2.28 พันล้านบาท ส่งผลให้กำไรของธนาคารในปีนี้โตน้อยมากหรือแทบไม่โตจากปีก่อน และวิตกพอร์ตลงทุนต่างประเทศของธนาคารอาจจะมีปัญหาหากสถาบันการเงินอื่น ๆ ในต่างประเทศที่อาจเผชิญปัญหาอีกด้วย 
          ราคาหุ้น BBL ปิดวานนี้ที่ 95.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -3.55% 
          โบรกเกอร์           คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) 
          บล.ยูไนเต็ด          ลงทุนระยะยาว         127
          บล.กิมเอ็ง           ทยอยสะสม            126
          บล.ฟิลลิป            ทยอยสะสม            122
          บล.กรุงศรีอยุธยา      เปลี่ยนจากซื้อเป็นถือ     119
          น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 3/51 จะลดลง 25.3% จากไตรมาสก่อน และ ลดลง 27% จากปีก่อน เนื่องจากธนาคารต้องตั้งด้อยค่าหุ้นกู้เลห์แมน บราเธอร์ส  65% ของวงเงินลงทุนที่ธนาคารลงทุน 3.5 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 2.28 พันล้านบาท และบันทึกครั้งเดียวในไตรมาสนี้ ทำให้คาดว่าทั้งปี กำไรของ BBL จะลดลงมาที่ 1.93 หมื่นล้านบาทซึ่งจะไม่โตจากปีก่อนที่มี 1.92 หมื่นล้านบาท
          ข้อกังวลของ BBL อยู่ที่ธนาคารมีเงินลงทุนต่างประเทศ ประมาณ  15% ของพอร์ตลงทุน ถือว่าสูงสุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ด้วยกัน จึงทำให้เกิดความกังวลว่า นอกจาก กรณีเลห์แมนฯแล้วถ้ามีสถาบันการเงินอื่นมีปัญหาอีก อาจจะต้องตั้งต้อยค่าเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอให้งบไตรมาส 3/51 ออกมาก่อน และจะมีการประชุมผู้บริหารธนาคารเพื่อพูดคุยกัน
          "แต่ถ้ามองไปข้างหน้า ฐานทุนยังแข็งแกร่งก็ยังมองว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจ เราก็ยัง weight เป็น BUY แต่ไม่ใช่ Top Picks แล้วแต่จะเป็น SCB กับ KBANK แทน...ก็มองว่า ค่อยๆสะสม แต่ถ้ามองในแง่ Valuation ก็ยังถูก"น.ส.ศศิกร กล่าว 
          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยลบเรื่องเลห์แมนฯ ไปพอสมควร แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะยังมีปัญหาสถาบันการเงินอีกหรือไม่ 
          ด้านน.ส.สุกัญญา อุดมวรนันท์ นักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า BBL เป็นหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่น่าสนใจน้อยกว่าหุ้นตัวอื่นในกลุ่มเดียวกัน เพราะ BBL มีการลงทุนหุ้นกู้เลห์แมนฯ ซึ่งต้องตั้งด้อยค่า ขณะที่เกิดวิกฤติสถาบันการเงินสหรัฐยังไม่จบ ซึ่งทำให้นักลทุนตื่นกลัว
          "ไม่รู้ว่าตั้งด้อยค่าเท่าไรในไตรมาสนี้ ถ้าตั้งด้อยค่าถึงกว่า 2 พันล้านบาทก็มีผลต่อกำไร ถ้าเไปเทียบกับแบงก์อื่น ..คือถ้าคนอยากจะซื้อ  BBL ก็อยากให้หันไปเล่นตัวอื่นมากกกว่า แต่ถ้าราคาอ่อนตัว ก็น่าเข้าไปสะสม แต่ก็ไม่ใช่หุ้น Top Picks 
แต่ราคา BBL ขณะนี้อ่อนตัวลงมามาก ก็เห็น upside gain  สูงเหมือนกัน" น.ส.สุกัญญา กล่าว 
          จากบทวิเคราะห์ของบล.กรุงศรีอยุธยา ระบุ การตั้งสำรองด้อยค่าการลงทุนในหุ้นกู้ของเลห์แมน บราเธอร์สของ BBL เป็นสาเหตุหลักกดดันกำไรสุทธิในไตรมาส 3/51 ลดลง โดยได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 51 ลง 6% เหลือ 1.96 หมื่นล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.1% จากปีก่อน 
          แม้จะคงเป้าหมายสินเชื่อปี 51 ที่ 15% จากปีก่อน แต่ผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอาจกระทบความสามารถขยายสินเชื่อปีหน้า โดยปรับลดเป้าหมายสินเชื่อปี 52 ลงที่ 6% จากเดิม 8% นอกจากนี้ การลงทุนยังมีความเสี่ยงที่มูลค่าเงินลงทุนอาจลดลงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทำให้มูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้นอาจลดลงได้จากการที่  BBL มีเงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุนต่างประเทศสูงราว 4.05 หมื่นล้านบาท เราปรับคำแนะนำเป็น ถือ จาก ซื้อ