นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) ออกแถลงการณ์ว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยลดลงมากในช่วงสัปดาห์นี้เป็นผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในต่างประเทศ
และสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังไม่เรียบร้อยตั้งแต่ต้นสัปดาห์นั้น จากข้อมูลที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับจากบริษัทหลักทรัพย์ตามที่ได้ขอความร่วมมือไป และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ทราบว่าจนถึงขณะนี้สภาพการซื้อขายดังกล่าวไม่มีผลกระทบถึงฐานะหรือเงินกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์แต่อย่างใด รวมทั้งสภาวะการไถ่ถอนหน่วยลงทุนก็ยังอยู่ในระดับปกติ
แต่ถึงกระนั้นสำนักงาน ก.ล.ต. ก็ยังเฝ้าติดตามผลกระทบที่มีต่อบริษัทหลักทรัพย์ การซื้อขายและการลงทุนของกองทุนรวม รวมทั้งระบบโดยรวมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถรับมือได้ทันต่อเหตุการณ์
สำหรับสภาพการทำ short selling นั้น มีปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.4% ของมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์รวม (จากสัปดาห์ก่อนที่ 0.6% ของมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์รวม) หรือคิดเป็น 1.7% ของมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ใน SET 50 ซึ่งนับว่ามีปริมาณน้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาค
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ขอเรียนย้ำว่า หลักเกณฑ์การกำกับดูแล short selling ของเราถือว่าเข้มงวดกว่าประเทศอื่น ผู้ที่จะทำ short selling ต้องแสดงว่ามีการยืมหุ้นมาไว้ก่อนแล้ว (covered short) และราคาที่เสนอขายต้องไม่ต่ำกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหุ้นนั้นด้วย (zero plus) อีกทั้งอนุญาตให้ทำได้เฉพาะหุ้นที่อยู่ใน SET 50 เพราะมีขนาดใหญ่ มีสภาพคล่องสูง และมีจำนวนผู้ซื้อขายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น โอกาสที่การทำ short selling จนมีผลต่อสภาพการซื้อขายของตลาดจึงเป็นไปได้ยากมาก
สำหรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นายประสงค์ กล่าวว่า ยังมีหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานดี ให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจอยู่หลายหลักทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ระดับราคาลดลงมาก โดยมีหุ้นที่ขณะนี้ราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีอยู่ถึง 344 หุ้น หรือคิดเป็น 65% ของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดเอ็มเอไอ รวมทั้งมีหุ้นที่มีผลตอบแทนดี (return on equity มากกว่า 10% และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (dividend yield) มากกว่า 5%) มีอยู่เกือบครึ่งหนึ่งของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดเอ็มเอไอ
หากเปรียบเทียบกับผลตอบแทนจากการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ จะเห็นว่าการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ในระยะที่ภาวะตลาดผันผวนเช่นนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ และตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ และขอให้มั่นใจว่าทางการได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะออกมาตรการพิเศษในกรณีที่มีความจำเป็น
นอกจากนี้ การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์และตลาดอนุพันธ์ของประเทศไทยมีความผันผวนในระดับที่ไม่แตกต่างจากตลาดอื่นในภูมิภาค และจากการพูดคุยสอบถามนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์และนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--