นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเชียพลัส(ASP) ในฐานะรองประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ภายหลังจากที่ตลาดหุ้นไทยได้ประกาศใช้ circuit breaker หยุดการซื้อขาย 30 นาทีนั้น ว่า เวลานี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นระดับโลก ซึ่งถ้าตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวนรุนแรง ตลาดบ้านเราก็ถูกกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มาตรการที่ตลาดฯใช้อยู่ก็ดี ทำให้นักลงทุนหันกลับไปนั่งคิดใหม่ และควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะเวลานี้ความเสียหายมันเกิดจากความกลัวมากกว่าที่จะดูจากปัจจัยพื้นฐาน
"ตอนนี้เราต้องอิงกับภาพใหญ่ มันเป็นปัญหาระดับโลก ไม่ใช่ระดับประเทศ ถ้าโลกยังผันผวนรุนแรง เกิดปัญหารุนแรงขนาดนี้ เราก็ถูกกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมาตรการที่มีอยู่ก็ดี ทำให้คนสงบจิตสงบใจไปนั่งคิดใหม่ แต่ก็ต้องมานั่งดูด้วยว่าระดับโลกจะแย่ลง หรือหยุดได้ซะที ขนาดมาตรการออกมาตั้งเยอะแยะแล้วก็ยังหยุดไม่ได้เลย"นายก้องเกียรติ กล่าว
อนึ่ง ข้อมูลจาก Fund survey ของบล.ไซรัส ระบุว่ามูลค่าตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกปรับลดลงมาแล้ว 43.4% จากจุดสูงสุดเมื่อ 31 ต.ค.50 ที่อยู่ในระดับ 62.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 35.43 ล้ายล้านเหรียญสหรัฐ
"ตอนนี้ก็ไม่รู้จะแนะนำอะไรนักลงทุน ก็คงจะนั่งศึกษาข้อมูลดูให้ดีแล้วกัน บางคนบอกจะเข้ามา ผมก็บอกไปว่าอย่าเพิ่ง..ให้ใจเย็น ๆ รอดูก่อน แม้ราคาหุ้นจะถูก แต่ว่าความเสียหายคือความกลัวมันมามากกว่า กลายเป็นคนกลัวมากกว่าดูพื้นฐาน กลายเป็นลักษณะนี้แล้ว คือความกลัวมันมาโดยไม่มีเหตุผลแล้ว เรียกกว่า"หนีตาย"แล้ว"นายก้องเกียรติ กล่าว
การที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียได้หยุดการซื้อขายไปเลยนั้น นายก้องเกียรติ มองว่า เรื่องนี้เป็นกฎของอินโดฯ แต่ของตลาดหุ้นไทยไม่ใช่เป็นแบบนั้น ถ้าหยุดไปก็ต้องหวังว่าเมื่อเปิดมาใหม่แล้วมันจะขึ้น แต่ถ้าหยุดไปสักพักใหญ่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังลงอยู่ มันก็เสมือนกับตามเช็คบิลตาม มันหนีไม่พ้น แต่ถ้าหยุดแล้วเปิดหลังจากตลาดโลกฟื้น มันก็พอจะบรรเทาความเสียหายไปได้บ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมด
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.31 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 456.93 จุด ลดลง 43.06 จุด(-8.16%)
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--