นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก เหตุรูปแบบการดำเนินธุรกิจของกองทุนมีแหล่งที่มาของรายได้ชัดเจน มีกระแสเงินสดไหลเข้าสม่ำเสมอตามสัญญาการเช่า และการจ่ายปันผลครั้งที่ 14 ยังเป็นไปตามปกติ
จากที่ขณะนี้วิกฤตการเงินโลก ได้ลุกลามไปยังภูมิภาคต่างๆ และเกิดปัญหาขึ้นกับสถาบันการเงินการลงทุนหลายแห่งทั่วโลก รวมทั้ง New City Residence Investment Crop ซึ่งเป็น Real Estate Investment Trusts ที่ดำเนินธุรกิจในอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ด้วยเงินทุนของกองทุนและการกู้เงินจากสถาบันการเงิน เกิดปัญหาในการดำเนินธุรกิจและไม่สามารถหาเงินมาชำระเงินกู้ได้ และส่งผลกระทบทางจิตวิทยาทำให้ Tokyo REIT Index ลดลงถึง 14.2% เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานั้น
“กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีความแตกต่างจาก Real Estate Investment Trusts ในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยปัจจุบัน ยังไม่ได้ดำเนินธุรกิจโดยการกู้เงินเหมือนในประเทศญี่ปุ่น นักลงทุนจึงไม่ต้องกังวลว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของไทยจะได้รับผลกระทบเหมือนในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับกองทุน TFUND ปัจจุบันดำเนินธุรกิจด้วยเงินทุนของกองทุนเพียงอย่างเดียว ไม่มีการกู้เงินจากสถาบันการเงินแต่อย่างใด โดยปัจจุบันยังมีรายได้ดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ และมีกระแสเงินสดเข้าจากค่าเช่าโรงงานอย่างสม่ำเสมอ" นายวศิน กล่าว
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 14 สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2551 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.20 บาท กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 16 ตุลาคม 2551 โดยบริษัทจัดการกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 27 ตุลาคม 51
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--