ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดตกฮวบ 9.61% ตื่นตระหนกตามตลาดหุ้นทั่วโลก/แนะเกาะติดประชุม G7 คืนนี้

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 451.96 จุด ลดลง 48.03 จุด(-9.61%) มูลค่าการซื้อขาย 16,291.63 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเปิดเทรดร่วงแรงกว่า 8% หลังจากนั้นก็แกว่งตัวในแดนลบตลอดช่วงเช้า และเปิดเทรดในช่วงบ่ายไม่นานนักก็ได้ประกาศใช้มาตรการ circuit breaker  หยุดการซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลา 30 นาที และทำการเปิดเทรดอีกครั้งเมื่อเวลา 15.05 น. โดยตลอดทั้งวันดัชนีฯขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 468.13 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ปิดตลาด คือ 449.53 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 36 หลักทรัพย์ ลดลง 389 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 28 หลักทรัพย์
          น.ส.มยุรี โชวิกานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงแรง โดยช่วงบ่ายระหว่างเทรดได้มีการประกาศใช้ circuit breaker หยุดซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลา 30 นาทีหลังจากที่ดัชนี SET ได้ลงไป 10% มองว่าเป็นการตื่นตระหนก(Panic)มากกว่าที่จะมองในเรื่องของเหตุผล
          ในช่วงท้ายตลาดฯ ดัชนีฯก็มีการรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อยในแดนลบ ซึ่งการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต่างปรับตัวลงแรง ทั้งนี้เป็นผลจากความมั่นใจได้เสียไปแล้ว หลังจากที่ได้เกิดวิกฤตการเงินและได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
          อย่างไรก็ดี คืนนี้ควรจะต้องรอดูผลการประชุม G7 ว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือบ้าง รวมถึงจะต้องจับตาความเคลื่อนไหวของดาวโจนส์ ซึ่งเป็นเวลานี้เป็นตัวชี้นำสำหรับทุกตลาดทั่วโลกไปแล้ว ส่วนปัจจัยทางด้านการเมืองในประเทศยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูด้วย
          แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.มยุรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเวลานี้ยังมี downside อยู่ ช่วงนี้ตลาดจะเหวี่ยงมาก หากลงก็จะลงลึก แต่ถ้ารีบาวน์ก็รีบาวน์ได้แรง ดังนั้นควรติดตามการประชุม G7 คืนนี้ ซึ่งหากตลาดฯไม่ตอบในเชิงบวก โอกาสที่ดัชนีฯหลุดแนว 400 จุดมีความเป็นไปได้ ขณะเดียวกันถ้าหากมีการรีบาวน์ดัชนีฯก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปแถวระดับ 500 จุดได้เช่นกัน
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 2,231.68 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท ลดลง 22.00 บาท
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,604.22 ล้านบาท ปิดที่  96.50 บาท ลดลง 10.50 บาท
          BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,450.10 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท ลดลง 36.00 บาท 
          KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,016.80 ล้านบาท ปิดที่  50.00 บาท ลดลง  6.50 บาท
          BBL   มูลค่าการซื้อขาย   992.11 ล้านบาท ปิดที่  75.50 บาท ลดลง 12.50 บาท