BWG ยอมรับสนใจเข้าเทคโอเวอร์บริษัทที่อยู่ในไลน์ธุรกิจเดียวกัน

          นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) ยอมรับว่า มีความสนใจที่จะเข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทที่อยู่ในไลน์ธุรกิจเดียวกันเพิ่ม ซึ่งตอนนี้มองอยู่หลายบริษัททั้งในตลาดและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมองว่าการเข้าไปเทคโอเวอร์ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจ และสร้างรายได้ในอนาคต  ส่วนจะเห็นเมื่อใดคงขึ้นกับเวลาที่เหมาะสม 
          อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทได้ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ในการแลกหุ้นกับ บริษัท โกลบอลเอ็นไวรอนเมนทอล เทคโนโลยี จำกัด(GETCO)ก็ถือเป็นวิธีการหนึ่ง ซึ่งในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ก็อนุมัติในการแลกหุ้น BWG กับ GETCO ในอัตราส่วน 35.625 หุ้นใหม่ของ BWG ต่อ 1 หุ้นของ GETCO จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทเคยเข้าไปเจรจาปรับลดสัดส่วนการแลกหุ้นให้เหลือ 30.21 หุ้นใหม่ BWG ต่อ 1 หุ้น GETCO แต่ทาง GETCO ปฎิเสธการลดสัดส่วนหุ้น เพราะราคาหุ้น BWG ปรับลดลงมามากในขณะนี้ 
          "หลังราคาหุ้นตก ทางผู้ถือหุ้น GETCO เกรงว่าจะมีปัญหาเลยยกเลิกการซื้อขายมาแลกหุ้นแทนในอัตราส่วนเดิมที่กำหนดไว้ คาดว่าหลังจากที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติแล้ว BWG จะไปทำสัญญาภายในเดือนนี้ "นายสุวัฒน์ กล่าว
          ทั้งนี้ GETCO ดำเนินธุรกิจหลักด้านการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางในนิคมอุตสาหกรรมบางปู โดยเข้ารับสัมปทานด้านระบบบำบัดน้ำเสียจาก กนอ. เป็นระยะเวลา 30 ปี มีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2542 คาดว่าภายใน พ.ย.ถึง ธ.ค.51 นี้ BWG จะเข้าไปบริหารจัดการการกำจัดขยะน้ำเสียที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูที่ GETCO เป็นผู้ดำเนินการอยู่ ซึ่ง BWG จะมีรายได้เข้ามา 15-20% ของปริมาณงานที่ GETCO ดำเนินการภายในปีนี้
          ในวันนี้ผู้ถือหุ้นยังอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 57 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงจำนวน 3 ราย ที่เป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ GETCO ประกอบด้วย บริษัท ไทรทอง พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้รับจัดสรรจำนวน 42,750,000 หุ้น หรือ 75% ของหุ้นเพิ่มุทุน, บริษัท ไทรทอง ธุรกิจ จำกัด ได้รับจัดสรรจำนวน 10,687,500 หุ้น หรือคิดเป็น 18.75% และ บริษัท ออลสไปซ์ เคเทอร์ริ่ง จำกัด ได้รับจัดสรรจำนวน 3,562,500 หุ้น หรือ 6.25% 
          นายสุวัฒน์ มั่นใจว่าหลังจากการแลกหุ้นแล้ว ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 ราย คงจะไม่ขายหุ้น BWG ออกมา เพราะราคาหุ้นปัจจุบันอาจไม่คุ้มกับราคาที่ตกลงซื้อ เพราะจจุบันราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลง แต่คงจะไม่สามารถบังคับได้ และเชื่อว่าทั้ง 3 รายจะถือเพื่อลงทุนระยะยาวมากกว่า 
          CEO และ กรรมการผู้จัดการ BWG ยังเปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ว่า รายได้ยังน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ว่าจะเติบโต 10-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 580.58 ล้านบาท เนื่องจากงานให้บริการกำจัดขยะและบำบัดน้ำเสียเป็นธุรกิจปลายน้ำ และแนวโน้มขยะอุตสาหกรรมก็มีเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด  
          สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/51 ไม่ได้ติดลบ และกำไรคงไม่ลดลงเหมือนช่วงไตรมาส 2/51 ที่รับรู้ขาดทุนจากบริษัทย่อย นอกจากนี้ ยังคาดว่าภายในปลายเดือน ต.ค.นี้ บริษัทจะรู้ผลการประมูลงานโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครนครราชสีมา มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ซึ่งหากได้รับงานก็จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามา 
          ส่วนราคาหุ้นที่ปรับลดลงนั้น มันคงเป็นไปตามภาวะตลาดโดยรวม บริษัทคงไม่สามารถไปทำอะไรได้ ต้องปล่อยไปตามกลไกตลาด แต่หากบริษัทสามารถสร้างผลกำไรและรายได้ให้เติบโตก็จะสะท้อนถึงราคาหุ้นได้เอง