ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ลบ 128.00 จุดเหตุนลท.ยังวิตกวิกฤตการเงินโลก

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) หลังจากที่ดีดขึ้นและร่วงลงสลับกันไปมาระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดสินเชื่อ แต่การที่ดัชนีไม่ได้ร่วงลงไปมากกว่านี้นั้นเป็นเพราะรัฐบาลสหรัฐมีแนวโน้มว่าจะออกมาตรการสนับสนุนตลาดเพิ่มเติม รวมทั้งความหวังว่าที่ประชุมกลุ่มประเทศ G7 น่าจะมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพออกมาช่วยบรรเทาภาวะวิกฤต  ส่งผลให้มีแรงซื้อจากนักลงทุนเข้ามาในช่วงท้ายของการซื้อขาย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 128.00 จุด หรือ 1.49% แตะที่ 8,451.19 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดอ่อนตัวลง 10.70 จุด หรือ 1.18% แตะที่ 899.22 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 4.39 จุด หรือ 0.27% แตะที่  1,649.51 จุด
          ทั้งนี้ มีสัญญาณบ่งชี้ว่า นักลงทุนบางส่วนอาจจะมองว่าตลาดใกล้จะอยู่ในจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากที่มีแรงขายอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาในช่วงท้ายของการซื้อขายจนทำให้ดัชนีร่วงลงถึง 678 จุด พอมาวันนี้นักลงทุนบางส่วนจึงเข้าซื้อ
          แอนตัน ชุซ ประธานเมนดอน แคปิตอล แอ็ดไวเซอร์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีนักลงทุนรายใดอยากจะพลาดโอกาสที่จะได้เห็นตลาดหุ้นดิ่งถึงจุดต่ำสุด ตลาดปิดที่ระดับกว่า 100 จุดในสัปดาห์ที่ผันผวนมากอย่างนี้ได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว
          อลัน เกล นักวิเคราะห์จากริดจ์เวิร์ท อินเวสท์เมนท์ กล่าวว่า ในขณะนี้ นักลงทุนก็แค่ดูว่าทั้งวันตลาดจะเคลื่อนตัวอย่างไร เพราะตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และข่าวลือ
          การออกมาแสดงความคิดเห็นของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ ไม่ได้ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในตลาดได้มากนัก เมื่อวานนี้ บุชได้ออกมาให้คำมั่นว่าจะใช้ทุวิถีทางที่มีอยู่เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นเนื่องจากวิกฤตซับไพรม์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการอัดฉีดเงินทุนเข้าระบบสถาบันการเงินที่มีปัญหา 
          แต่การที่มีแนวโน้มออกมาว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินที่มีปัญหานั้นก็ยังช่วยดึงหุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่บวกขึ้นมาได้ โดยหุ้นแบงค์ออฟอเมริกา บวก 1.24 ดอลลาร์ หรือ 6.3% ดที่ 20.87 ดอลลาร์
          หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ตกลง 8.3% แตะ 62.36 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นเชฟรอน คอร์ป ร่วงลงมากกว่า 9% ขณะที่หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง โค บริษัทผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ดิ่งลง 14% แตะ 29.23 ดอลลาร์ 
          ส่วนหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งหนัก 22% มาปิดที่ 9.68 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วง 12.55 ดอลลาร์ หรือ 12% ปิดที่ 88.80 ดอลลาร์ หลังจากที่ถูกมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือเหลือระดับลบ