TOP เตรียมตั้งบ.ลูกเข้าซื้อธุรกิจสารละลายHydrocarbon ในไทยและเวียดนาม

          บมจ. ไทยออยล์ (TOP) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เห็นชอบการได้ลงนามสัญญาการซื้อขายหุ้นร้อยละ 80.52 ของบริษัท ศักดิ์ไชยสิทธิ์ จำกัด (SAKC) จากบริษัท Shell Overseas Investments B.V. และบริษัท พัฒนกิจเคมี จำกัด รวมทั้งสัญญาการซื้อขายสินทรัพย์เพื่อธุรกิจเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายและการตลาดสารละลายในประเทศไทย กับบริษัท Shell Company of Thailand Limited (SCOT) และสัญญาการซื้อขายสินทรัพย์เพื่อธุรกิจเกี่ยวกับสารละลายในประเทศเวียดนาม กับบริษัท Shell Vietnam Limited (SVL)
          ในการนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะจัดตั้งบริษัทลูกใหม่เพื่อซื้อหุ้น SAKC ร้อยละ 80.52 รวมทั้งสินทรัพย์ธุรกิจเกี่ยวกับสารละลายในประเทศไทยและในประเทศเวียดนามของ SCOT และ SVL การลงทุนดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา บริษัทฯ คาดว่าการซื้อหุ้นและสินทรัพย์ธุรกิจของ SCOT จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2551 และคาดว่าการซื้อสินทรัพย์ธุรกิจของ SVL จะแล้วเสร็จในต้นปี 2552 
          การเข้าซื้อหุ้นและสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นไปเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีแผนงานจะขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน รวมทั้งการขยายฐานธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน รวมถึงการมีเครือข่ายลูกค้า การจัดจำหน่าย และการตลาดในธุรกิจสารละลายที่มีคุณภาพพร้อมด้วยบุคลากรที่มีความชำนาญในทันที และการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทฯ และบริษัทในเครือ
          SAKC ประกอบธุรกิจการผลิตสารละลายประเภท Hydrocarbon มีโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เริ่มประกอบกิจการ ตั้งแต่ พ.ศ. 2534 โดยบริษัท Shell Overseas Investments B.V. และบริษัท พัฒนกิจเคมี จำกัด ได้เข้าร่วมทุนและร่วมบริหารกิจการ ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 ปัจจุบัน SAKC มีกำลังการผลิตกว่า 80,000 ตันต่อปี โดยผลิตและจำหน่ายสารละลายเพื่อขายภายในประเทศไทย
          ทั้งนี้ SCOT และ SVL ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการสารละลายในประเทศไทย และประเทศเวียดนาม โดยมุ่งเน้นตลาดภายในประเทศ ปัจจุบันทั้ง SCOT และ SVL ต่างเป็นหนึ่งในผู้นำการค้าสารละลายในประเทศไทยและในประเทศเวียดนาม โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในอุตสาหกรรมสี