นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.ศก.) ได้พิจารณารายละเอียดโครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศเอ็นจีวี 4 พันคัน เป็นเวลา 10 ปี วงเงิน 62,598 ล้านบาท ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) โดยตั้งข้อสังเกตว่า ยังมีความจำเป็นต้องจัดหาตามจำนวนเดิมหรือไม่ หลังราคาน้ำมันในปัจจุบันปรับตัวลดลง
ดังนั้น จึงได้สั่งการไปยังนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการ ขสมก.ไปศึกษารายละเอียดโครงการอีกครั้ง นอกจากราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงแล้ว ต้นทุนด้านอื่นๆ ได้ปรับลดลงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนในการจัดหาอู่จอดรถ หรือต้นทุนในการจัดหาสถานีบริการเอ็นจีวี รวมทั้งอัตราค่าเช่ารถและอัตราค่าโดยสาร
"อัตราค่าเช่ารถโดยสารเกิดจากการคำนวณต้นทุนของผู้ให้เช่า เมื่อต้นทุนต่างๆ ในปัจจุบันลดลงมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ลดลงแบบมหัศจรรย์ ขสมก.จึงต้องทบทวนรายละเอียดทุกด้าน เพื่อให้รู้ว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่รูปแบบการจัดหายังคงใช้วิธีการเช่าตามเดิม" นายสันติ กล่าว
ส่วนการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจะส่งผลให้การรับมอบรถโดยสารต้องเลื่อนไปจากแผนงานที่กำหนดว่าจะรับมอบรถในเดือน พ.ค.52 หรือไม่นั้น รมว.คมนาคม กล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่ได้เป็นปัญหา แต่จะต้องปรับรายละเอียดโครงการให้ทันกับความผันผวนของต้นทุนต่างๆ
ขณะที่การติดตั้งระบบเก็บเงินอัตโนมัติ(e-Tickets) นั้น กระทรวงคมนาคมจะเปิดกว้างหากผู้ประกอบการรถร่วมบริการต้องการเข้ามาในระบบนี้ด้วย โดยกรมการขนส่งทางบกจะกำหนดมาตรการต่างๆ และกำหนดสภาพรถโดยสารที่จะเข้าร่วม รวมทั้งเปิดกว้างให้มีการผลิตระบบตั๋วอัตโนมัติ เช่นเดียวกับการผลิตมิเตอร์ที่ติดตั้งในรถแท็กซี่
ด้านนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานร่างทีโออาร์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดเพื่อกำหนดร่างทีโออาร์ และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นในเดือน พ.ย.นี้ โดยคาดว่าภายใน 2 เดือนน่าจะเปิดประกวดราคาและเซ็นสัญญาได้ และหลังจากนั้นประมาณ 4 เดือน น่าจะทยอยรับมอบรถโดยสารได้
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--