น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้ดีขึ้นเป็นอิทธิพลจากต่างประเทศที่ดาวโจนส์บวกไปถึง 11% หรือ 900 กว่าจุด เป็นการบวกภายในวันเดียวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ส่งผลให้ตลาดเอเชียเช้านี้นิกเคอิบวกไป 12% เอเชียอื่นๆ ไต้หวัน ออสเตรเลียเปิดบวกประมาณ 5-7% หุ้นไทยก็จะเกาะกลุ่มตามเพื่อนบ้าน คนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เนื่องจาก LIBOR เมื่อคืนลงมาเป็นครั้งแรกเป็นสัญญาณที่ดีแต่การที่ลงมาเล็กน้อยไม่ได้หมายความว่าสภาพคล่องกลับมาดีแต่เริ่มมีสัญญาณที่ดี ความเชื่อมั่นของคนเริ่มกลับมา
"พอความเชื่อมั่นกลับมาดาวโจนส์บวกแรงบวก 900 กว่าจุด แต่จุดที่ยังไม่ได้นิ่งนอนใจคือ LIBOR เพิ่งลงมาแค่วันแรก เพราะก่อนหน้านี้หลังจากเลห์แมนฯ ล้มละลาย เฟดอัดฉีดเงินช่วยเหลิอตอนนั้น LIBOR ที่เคยพุ่งสูงก็ลงมาอยู่ 2 วันหลังจากนั้นก็กลับขึ้นใหม่ เพราะฉะนั้นนี้เพิ่งลงมานิดเดียวและลงมาวันเดียวกัยังไม่ได้นิ่งนอนใจ"
ตลาดมองแนวต้านแถวๆ 500 จุด จากนั้นดูสถานการณ์อีกทีเพราะไตรมาส 3/51 ของสถาบันการเงินในสหรัฐฯกำลังจะประกาศในสัปดาห์นี้ โดยวันนี้มีเจพีมอร์แกน เวลซาโก ส่วนแบงก์ใหญ่ ซิติ้แบงก์แบงก์ออฟอเมริกาปลายสัปดาห์ ถ้าไม่มีอะไรหนักๆ ฉุดกระชากลงมา ดัชนีก็จะค่อยๆ ไป ต้องดูตลาดต่างประเทศเป็นหลัก
"มีสิทธิเห็น 500 จุด วันนี้ตลาดอื่นบวก 5-7% ของเราถ้า 5% ก็ประมาณ 20 กว่าจุดมีโอกาสเห็น แต่ก็จะถูก take ระหว่างทางเพราะคนก็ยังไม่มั่นใจ เพราะบทวิเคราะห์ของตลาดต่างประเทศในสหรัฐนักวิเคราะห์ประมาณครึ่งหนึ่งบอกว่าผ่าน bottom ไปแล้ว ส่วนอีกครึ่งหนึ่งบอกว่ายังไม่ใช่ของจริงเพราะฉะนั้นขึ้นก็ขาย" น.ส.จิตรา กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(13 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 9,387.61 จุด เพิ่มขึ้น 936.42 จุด(+11.08%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,003.35 จุด เพิ่มขึ้น 104.13 จุด(+11.58%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,844.25 จุด เพิ่มขึ้น 194.74จุด (+11.81%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 468.86 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 81.19 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.49 ดอลลาร์
- 'รัฐบาล' คลอด 6 มาตรการรับมือวิกฤติการเงินโลก ตั้งเป้าอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1.2 ล้านล้านบาท เข้าตลาดเงิน-ตลาดทุน ทั้งหวังเพิ่มรายได้ส่งออก ท่องเที่ยว และลงทุนเมกะโปรเจค หวังประคอง 'จีดีพี' ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4% 'โอฬาร' ลั่น พร้อมลาออกหากทำไม่ได้ 'ประชา' หารือบอร์ดบีโอไอเพิ่มสิทธิประโยชน์ทุนต่างชาติ 'วีระศักดิ์' เสนอปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีท่องเที่ยว ด้านนายกฯ สั่งทบทวนเช่ารถเมล์ 4 พันคัน
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า เบื้องต้นมีธนาคาร 2 แห่งพร้อมร่วมลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เพื่อจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย(KTB) และธนาคารออมสิน
- ภาคเอกชนขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นายกแอตต้า ชี้เงินกู้ 6 หมื่นล้านจะช่วยสถานการณ์ท่องเที่ยวดีขึ้นในปีหน้า แนะอัตราดอกเบี้ยไม่ควรเกิน 2% ด้านกลุ่มอสังหาฯ ชี้มาตรการดีแต่ต้องทำให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน ขณะที่กลุ่มยานยนต์ ระบุยังขาดด้านส่งเสริมการลงทุน พร้อมแนะรัฐบาลเลิกบิดเบือนกลไกตลาด
- ธนาคารกลางหลายแห่งในยุโรปประกาศมาตรการเพิ่ม จัดหาเงินสกุลเงินดอลลาร์ให้กับธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นอย่างไม่จำกัดจำนวน หลังให้คำมั่นไม่ปล่อยให้มีสถาบันการเงินล้มอีก ขณะตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกขานรับร่วมใจแก้วิกฤติการเงิน
- ธปท.หารือธนาคารพาณิชย์ รับมือดอลลาร์ขาดตลาด หลังพบทำให้การคำนวณการซื้อขายล่วงหน้าของเงินบาทกับดอลลาร์ 'ติดลบ' กระทบตลาดเงินบิดเบี้ยว ส่งผลผู้ส่งออกขาดทุนจากการขายเงินบาทล่วงหน้า แบงก์ชาติงัดมาตรการซื้อเงินบาทในตลาดสวอป หวังช่วยลดผลกระทบ ส่วนนายแบงก์แนะหันมาเน้นใช้ BIBOR แทน LIBOR ลดความผันผวนจากการคำนวณอัตราดอกเบี้ย
- กระทรวงพาณิชย์จะปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกในปี 52 เป็น 6.6 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 6 ล้านล้านบาท แม้ว่าจะหนักใจจากการที่หลายฝ่ายคาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจเติบโตไม่เกิน 6% โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับภาวะการเศรษฐกิจโลก
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--