โบรกฯแนะเข้าซื้อและเก็งกำไรหุ้นบมจ.อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเม้นท์(ITD)เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงมาค่อนข้างลึกแล้ว แม้ว่าผลประกอบการในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปีนี้จะออกมาไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ต้นทุนต่าง ๆ ก็เริ่มปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน ขณะที่มองว่ามีโอกาสได้รับประโยชน์จากการที่ภาครัฐมีแนวทางเพิ่มงบลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็คต์อีก 1 แสนล้านบาทภายใต้มาตรการรับมือวิกฤติการเงินของสหรัฐ
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท) บล.แอ๊ดคินซัน ซื้ออ่อนตัวเก็งกำไร เป้าพื้นฐาน(52) 6.00/เทคนิค 2.50 บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) Speculate trading เป้าเทคนิค 3.00 บ. บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ถือ เป้าพื้นฐาน 2.64 บล.บีฟิท เก็งกำไร เป้าเทคนิค 2.64-2.70 , 3.00
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊คคินซัน กล่าวว่า หุ้น ITD วันนี้เปิดกระโดดขึ้นมาจากแรงเก็งกำไรข่าว 6 มาตรการของภาครัฐที่จะมีการเพิ่มวงเงินเมกะโปรเจกต์ แต่ราคาเริ่มติดแนวต้านแถวประมาณ 2.50 บาท แนวรับ 2.36 บาท จึงแนะ"ซื้อเมื่ออ่อนตัว"เพื่อเก็งกำไร
ในแง่พื้นฐานผลประกอบการในปีนี้มองว่ายังชะลอตัวเช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แต่ราคาก็ปรับลงมาเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นควรเก็งกำไรไปก่อน โดยเล่นตรงที่ราคาลงมาลึก
นายพงษ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองยังเป็น Speculate trading เพราะ ITD เบต้ากับตลาดยังสูงมาก และถ้าการเมืองถูกแก้ไขไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ไม่ว่าจะมีรัฐบาลเฉพาะกาล หรือรัฐบาลใหม่เข้ามา ก็เชื่อว่าจะมีการผลักดันการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ หรือโครงการก่อสร้างอื่น ๆ ก็น่าจะได้รับผลดี โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมัน และต้นทุนการก่อสร้างปรับลดลงมามากแล้ว
ด้านราคาพื้นฐาน ยังรอประเมินอีกครั้ง เพราะพรีเมียมของตลาดโลกทั้งตลาดอาจจะปรับลง แต่ก็คาดว่าราคาน่าจะวิ่งได้เกิน 3.00 บาท
"เป็น Speculate trading เก็งกำไรได้ story ดีขึ้น เพราะเบต้าสูงและงานที่ทำอยู่ต้นทุนก็ปรับลง ก็อาจจะได้กำไรมากหน่อย ไม่ได้แย่ ถ้าการเมืองมีจุดจบในระยะสั้นๆ ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะเข้ามาก็น่าจะมาผลักดันสาธารณูปโภค ซึ่ง ITD จะไม่เทรดด้วยพื้นฐานอยู่แล้ว"นายพงษ์พันธ์ กล่าว
นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า จากราคาเป้าหมายที่ 2.64 บาท ทำให้มี upside ทีป่ระมาณ 16% เพราะ ITD ยังมีความเสี่ยงเรื่องอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้ต่ำ แต่มาตรการรัฐที่สั่งเพิ่มวงเงินเมกะโปรเจ็คต์อีก 1 แสนล้านบาทก็เป็นไปได้ว่านักลงทุนจะเข้ามาเล่นและเทรดดิ้งกัน โดยมี LTD เป็น lead ในกลุ่มผู้รับเหมาฯ เป้าหมาย 2.64 บาท ถ้ามากกว่านี้อาจจะ take profit รอบหนึ่งก่อน
ในแง่พื้นฐาน ปีนี้คาดว่าผลประกอบการจะออกมาขาดทุน 377 ล้านบาท แต่ปีหน้าคาดว่าจะมีกำไร 711 ล้านบาท
"แต่คิดว่าในหุ้นรับเหมาฯใหญ่มอง STEC น่าสนใจให้ราคาเป้าหมายที่ 2.24 บาท upside มากกว่าเป็น 27% เพราะ STEC ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเจอเรื่องราคาเหล็กไปมาก พอมองว่าปี 52 เหล็กราคาน่าจะลดลงอีก ก็จะได้ประโยชน์จากตรงนี้สูง" นายสมบัติ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า กลุ่มรับเหมาฯ วันนี้เก็งกำไรจากมาตรการของภาครัฐที่มองในเรื่องของการอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มในโครงการเมกะโปรเจ็คต์
เชิงเทคนิคช่วงสั้นมองแนวต้าน 2.64-2.70 บาท ถัดไป 3.00 บาท แค่ช่วงสั้นๆ ช่วงนี้พอเก็งกำไรได้