ธนาคารทิสโก้(TISCO)ยังคงเป้าหมายการขยายสินเชื่อในปี 51 ในระดับ 15-16% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่ธุรกิจบางภาคก็ยังเติบโตได้ดี อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้ตัดสินใจที่จะชะลอแผนออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1.5 พันล้านไว้ก่อน เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมกว่าในขณะนี้
นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TISCO เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 3/51 ที่มีกำไรสุทธิ 397.92 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้น ทำให้กำไรจากการขายหุ้น และรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่รายได้จากการปล่อยสินเชื่อ ธนาคารยังสร้างรายได้ที่ดี
ทั้งนี้ ในๆตรมาสที่ 4 ยังหวังให้ภาวะตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น จากภาวะการตื่นตระหนกของนักลงทุนน่าจะหมดไป การที่ดัชนีผ่านระดับ 400 จุดไปได้แล้วน่าจะถือว่าพ้นจุดต่ำสุดแล้ว แม้นักวิเคราะห์ ยังมองว่า ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ยังมีแนวโน้มไม่สดใสก็ตาม ดังนั้น ยอมรับว่าการดำเนินธุรกิจของธนาคาร จะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจดังนั้น ธนาคารจะเน้นการวิเคราะห์รายภาคธุรกิจ ซึ่งบาง Sector ยังมีโอกาสเติบโตได้ ดังนั้นในปีนี้ ธนาคารยังวางเป้าให้สินเชื่อเติบโตที่ 15-16%
"ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ธุรกิจจัดการกองทุน ยังเป็นธุรกิจที่ดี ขณะที่ภาวะเศรษบกิจอาจกระทบการขยายสินเชื่อ ดังนั้น เราต้องเน้นการวิเคราะห์เป็นรายตัว เพิ่มความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดเอ็นพีแอล ส่วนปี 52 ภาพรวมสินเชื่อน่าจะลดลง" นายปลิว กล่าว
ส่วนการออกหุ้นกู้ นายปลิว กล่าวว่า ธนาคารจำเป็นต้องเลื่อนแผนการออกหุ้นกู้ วงเงิน 1,500 ล้านบาท ออกไปจากเดิมที่คาดว่าจะออกได้ไตรมาส 4/51 เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย จากสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินโลก ทำให้การออกหุ้นกู้ขณะนี้ จะทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TISCO มองแนวโน้มดอกเบี้ยว่าอยู่ในช่วงขาลงแล้ว เพราะเริ่มมีสัญญาณการบริโภคที่ชะลอตัวลงแล้ว ดังนั้นเชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงจะต้องมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่เป็นลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อดูแลเสถียรภาพศก.ของประเทศ
"เชื่อว่าตอนนี้ ธปท.คงดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว และเมื่อถึงจังหวะ น่าจะลดดอกเบี้ยลง ซึ่ง TISCO เองก็มองว่า ควรจะลดดอกเบี้ย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TISCO
นายปลิว กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ธนาคารมีสภาพคล่องอยู่ 10% ของยอดเงินฝากที่ 90,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และมีเพียงพอใช้ปล่อยสินเชื่อ ซึ่ง เฉลี่ย ธนาคารจะปล่อยสินเชื่ออยู่ที่เดือนละ 1 พันล้านบาท และในภาวะปัจจุบัน เป็นโอกาสดีที่ ธนาคารจะหาธุรกิจอื่นๆ เสริม นอกเหนือจากการปล่อยสินเชื่อ ที่ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น ด้าน นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการรองกรรมการอำนวยการ TISCO กล่าวว่า หลังเกิดวิกฤติการเงินของสหรัฐและยุโรป ทำให้มีสินทรัพย์ราคาถูกของต่างชาติที่จะทยอยออกขาย และเป็นโอกาสที่ธนาคารจะเข้าไปลงทุนซื้อทรัพย์สินดังกล่าว เช่น ซื้อพอร์ตเช่าซื้อ หรือสินทรัพย์อื่นๆ โดยเน้นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ โดยขณะนี้ ธนาคารมีสภาพคล่องส่วนเกิน กว่า 9 พันล้านบาท คาดว่าการเจรจาซื้อทรัพย์สินจะมีข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ "เป็นโอกาสที่เราจะเข้าไปเก็บทรัพย์สินของฝรั่งที่ออกมากขาย เหมือนช่วงวิกฤติปี 40 ที่มีสินทรัพย์ราคาถูก ตอนนี้ได้เริ่มเจรจา กันบ้างแล้ว แต่ไม่ขอให้รายละเอียด คาดว่าจะมีข้อสรุปสิ้นปีนี้ โดยราคาที่ซื้อขาย เราไม่ได้เน้นที่ต้องกดราคา หรือซื้อของถูก แต่จะดูจากคุณภาพสินทรัพย์" นางอรนุช กล่าว นางอรนชุ กล่าวอีกว่า ธนาคารยังมีเป้าหมาย ระดมเงินฝากมากขึ้น รองรับการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะขยายฐานลูกค้ารายย่อย จากปัจจุบันมี 62,000 บัญชีเพิ่มเป็น 1 แสนบัญชีภายในสิ้นปีนี้