ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงแล้วกว่า 3% หลังจากมีรายงานข่าวเหตุปะทะกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชาบริเวณแนวชายแดนด้านจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนรอบประสาทพระวิหาร ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 2 นาย โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็อ้างว่าอีกฝ่ายเปิดฉากยิงเข้าใส่ก่อน ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเพิ่มขึ้นจึงเทขายหุ้นออกมาเพื่อรอผลการเจรจาในวันพรุ่งนี้ แต่เบื้องต้นก็เชื่อว่าปัญหาอาจจะยืดเยื้อ
เมื่อเวลา 16.08 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 482.72 จุด ลดลง 18.05 จุด (-3.60%) จากปิดภาคเช้าที่ปรับตัวลดลงเพียง 0.89 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ร่วงแรง เพราะมีข่าวเรื่อง กัมพูชากับไทยปะทะกันตามแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้กำลังประเมินเรื่องนี้อยู่เป็นเรื่องที่ใหม่เข้ามา ซึ่งทิศทางก็คงต้องรอดูเรื่องนี้
ขณะที่ปัจจัยของต่างประเทศก็เป็นปัจจัยที่วางใจไม่ได้อยู่แล้ว เจอเรื่องนี้ซ้ำเข้าไป ถึงแม้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจน่าจะมีไม่มาก แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาทก็ควรรอดูผลกระทบให้ดีก่อน
น.ส.ปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นปลายภาคบ่ายร่วงต่อจากข่าวกัมพูชาปะทะกับไทยเรื่องเดียว เพราะช่วงเช้าไม่ได้ลงตามต่างประเทศมาก แต่ค่อนข้างทรงแต่ช่วงบ่ายมีข่าวเรื่องการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชาที่ทำให้ตลาดลงมาค่อนข้างจะลึก
เท่าที่ประเมินผลกระทบคงขึ้นอยู่กับการเจรจาในวันพรุ่งนี้ที่ทางรัฐบาลกำลังรอดูอยู่ เพียงแต่ประเด็นระหว่างไทยกับกัมพูชาคงไม่ได้ใช้เวลาสั้นในการที่จะจบกรณีข้อพิพาทกัน
"ของเราตอนนี้ลงไปประมาณ 3.5% เทียบกับภูมิภาคถือว่าพอๆ กัน ซึ่งความกังวลก็เยอะพอสมควร"
ทิศทางพรุ่งนี้ มองเทรนน์ตลาดน่าจะมีแนวโน้มปรับลงมากกว่า ถึงแม้จะมีรีบาวน์แต่คงไม่ไกลมาก เพราะประเด็นหลักตอนนี้ตลาดจับตาดูเรื่องของสหรัฐ โดยเฉพาะคืนนี้จะมีการประกาศผลประกอบการของหุ้นสถาบันการเงินหลายๆ ตัวตลาดคงจับตาดูตรงนี้
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.16 น.
ดัชนีอยู่ที่ 483.61 จุด ลดลง 17.16 จุด (-3.43%)