โบรกฯคาดมีเก็งกำไรหุ้น BAY ช่วงสั้นจากข่าวลือทาบซื้อAIG Retail Bankในไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 16, 2008 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บทวิเคราะห์ของ บล.เคจีไอ มองว่า ในระยะสั้น หุ้น BAY จะเป็นหุ้นที่มีการซื้อแบบหุ้นเก็งกำไรไปอีกระยะหนึ่ง ตามที่มีข่าวลือต่าง ๆ ในช่วงตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้น BAY ดีดกลับเกือบ 30% จากจุดต่ำสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ในวันที่ 10 ต.ค. 51 โดยมีข่าวลือในห้องค้าว่ามีความพยายามของ BAY ในการเข้าซื้อกิจการ AIG Retail Bank (Thailand)

เราเชื่อว่าในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ โอกาสสำหรับการซื้อกิจการอาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจาก BAY มีฐานะเงินทุนที่ดี (ค่า CAR สูงกว่า 18%) อย่างไรก็ดี ในความเห็นของเราการควบรวมกิจการจากการซื้อ AIG Retail Bank (Thailand) จะไม่มีประโยชน์มากนักในการเพิ่มผลตอบแทนผู้ถือหุ้น จากการคำนวนของเรา การธุรกรรมดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประมาณการกำไรของเราเพียง 1-2% หรือ 0.2% ในแง่ของค่า ROAE

อย่างไรก็ตาม มองว่าหาก BAY จะควบรวมกิจการกับ GE Capital Thailand (GECT) [GE Capital (US) ถือ 100%] และ Krungsriayudhya Card [GE Capital (US) และ BAY ถือฝ่ายละ 50%] ประโยชน์จากธุรกรรมดังกล่าวอาจเพิ่มประมาณการกำไรของเราได้สูงถึง 9-12% นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป

ตลาดควรจะให้ความสนใจต่อธุรกรรมดังกล่าวมากกว่า โดยประโยชน์จากธุรกรรมดังกล่าวจะสูงกว่า เนื่องจาก GECT และ Krungsricard เป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง โดยมีอัตราผลตอบแทนของสินเชื่อในอดีตสูงถึง 15-17% เทียบกับอัตราผลตอบแทนของสินเชื่อที่เพียง 6-7% ของ AIG และธุรกรรมดังกล่าวจะประหยัดต้นทุนทางการเงินได้มากกว่า โดยต้นทุนทางการเงินของ GECAL และ Krungsricard ในอดีตอยู่ในช่วงระหว่าง 5-6% เทียบกับเพียง 3-5% ของ AIG เป็นที่น่าสังเกตุว่าเหตุผลที่ต้นทุนทางการเงินของ GECAL และ Krungsricard สูงกว่าของ AIG อยู่มากมีเหตุผลจากการที่ทั้ง 2 บริษัทพึ่งพาเงินทุนจำนวนมากจาก GE Capital (US) จากวิกฤต

วานนี้(15 ต.ค.)ราคาหุ้น BAY ปิดที่ 12.80 บาท ลดลง 0.40 บาท(-3.03%)



แท็ก เคจีไอ   AIG  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ