ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวน์ตามรอบบ้าน แต่การเมืองอาจถ่วงหลังตช.มองเสถียรภาพรบ.ไม่ดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 17, 2008 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊คคินซัน กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้น่าจะมีเทคนิคัลรีบาวน์ต่อเนื่องจากวานนี้ เป็นผลจากตลาดหุ้นรอบบ้านกระเตื้องขึ้นมา แต่ก็แกว่งตัวเนื่องจากกรณีของผบ.เหล่าทัพที่ออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะถ้ามองในเชิงของเสถียรภาพรัฐบาลเป็นมุมมองที่ไม่ดี
"คิดว่าประเด็นนี้อาจจะทำให้นักลงทุนต่างประเทศยังคงกังวลว่าบ้านเราทำไมการเมืองยังไม่นิ่งและรัฐบาลทำไมเปลี่ยนบ่อย ก็น่าจะทำให้ตลาดมีทั้งบวกและลบ" นายรณกฤต กล่าว

แนวรับ 470 จุด แนวต้าน 490 จุด เล่นตามกรอบยังมองหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กเทรดดิ้ง แบงก์คงมีเทคนิคัลรีบาวน์สั้นๆ เพราะแบงก์ชาติออกมาให้ข้อมูลวานนี้ว่า แบงก์พาณิชย์ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ก็เป็นแค่ช่วงผลประกอบการของแบงก์แต่ยังมีมุมมองที่ติดลบอยู่ฉะนั้นแบงก์แค่เทคนิคัลรีบาวน์เล่นสั้น พลังงานไม่น่าเล่นและเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กทั่วไป

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(16 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,979.26 จุด เพิ่มขึ้น 401.35 จุด(+4.68%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 946.43 จุด เพิ่มขึ้น 38.59 จุด(+4.25%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,717.71 จุด เพิ่มขึ้น 89.38 จุด (+5.49%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 686.79 ล้านบาทเมื่อวานนี้
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 69.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 4.69 ดอลลาร์
  • ศาลฎีกานักการเมือง รับฟ้องยึดทรัพย์ "ทักษิณ" กว่า 7.6 หมื่นลบ. ตกเป็นของแผ่นดินนัดเปิดคดีครั้งแรก 25 ธ.ค.นี้
  • 6 พรรคร่วมรัฐบาลรวบหัวรวบหางดันแก้มาตรา 291 ตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไข รธน. ไม่สนใจฝ่ายค้านบอยคอต วางพิมพ์เขียวเบื้องต้นมีสมาชิก 100 คน "สุจิต-บวรศักดิ์" ตัวยืน ที่เหลือคัดจากสภาพัฒนาการเมืองและตัวแทนผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ "ชัย" ขู่ถ้าไม่แก้ ม.291 ก็ต้องเอาร่าง รธน.ของ "เหวง" ที่เสนอมาด้านฝ่ายค้านชี้เหตุที่ไม่ร่วมสังฆกรรม เพราะไม่อยากเป็นเครื่องมือตบตาประชาชนว่ารัฐบาลมีความชอบธรรม ยันเจตนารมย์แก้ปัญหาบ้านเมืองเปลี่ยนไป ตั้ง ส.ส.ร.ไร้ประโยชน์
  • 'อนุพงษ์' นำผบ.เหล่าทัพเปิดใจเคลียร์สถานการณ์บ้านเมือง กดดันนายกฯ รับผิดชอบสลายม็อบต้องลาออก ลั่นหากเกิดเหตุการณ์นองเลือดอีก จะหยุดใช้อำนาจรัฐแต่ไม่ใช่ปฏิวัติ เตือนสังคมอย่าแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระวังประเทศล่มจม ด้าน 'สมพงษ์-ยงยุทธ' รุดถกนายกฯ ด่วนหลังเหล่าทัพออกทีวี ขณะที่กรรมการอิสระตั้ง 5 อนุสอบสวนข้อมูลทุกด้าน ขีดเส้นสรุปผลภายใน 2 เดือน
  • สหรัฐ-ยูเอ็น เรียกร้องไทยยุติปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ขณะที่ทูลกระหม่องหญิงอุบลรัตนฯ ประทานดอกไม้ให้กำลังใจทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วน ผบ.สส. ยัน มทภ.2 เคลียร์เขมรเข้าใจแล้ว นัดเจรจาอีกรอบ 21 ต.ค.นี้ ยัน 3 เหล่าทัพพร้อมรบเต็มที่ ผบ.ทบ.ปัดไม่รู้ 'ทักษิณ' อยู่เบื้องหลัง แค่รักษาอธิปไตยเท่านั้น มหาดไทยยันไม่มีรายงานข่าวการจับตัวทหารไทย
  • 'นายกฯ' ห่วงวิกฤติการเงินโลกลุกลาม สั่งทุกภาคส่วนเร่งสร้าง 5 ภูมิคุ้มกันภายในรับมือวิกฤติ หวั่นผลกระทบร้ายแรงกว่าปี 2540 เร่งเดินหน้าลงทุนเมกะโปรเจคอัดฉีดงบประมาณเข้าระบบช่วง 6 เดือนแรก พร้อมดึงเอกชนร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงแก้ปัญหาความยากจน 'โอฬาร' สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ลั่นออกหวยบนดิน 3 ตัว
และ 2 ตัวต่อ
  • 'เอ็มบีเอ็มจี' บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติอังกฤษในไทย ฉวยจังหวะวิกฤติการเงินฉุดหุ้นทั่วโลกดิ่ง 45%ดึงสองเฮดฟันด์แนะลูกค้าต่างชาติในไทยลงทุนเพิ่ม ด้วยกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงเน้นค่าเงินกับโภคภัณฑ์ ชี้ปีหน้าหากการเมืองไทยนิ่ง จะดึงเงินลูกค้าส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 125 ล้านดอลลาร์ซื้อหุ้นไทย
  • หอการค้าไทยเปิดเผยว่า ปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่กลางปีจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศ เสียหายกว่า 1 หมื่นลบ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้จากการท่องเที่ยวที่กัมพูชาจะได้รับผลกระทบโดยตรง
  • น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เรียกร้องภาครัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมารภาครัฐที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะงบประมาณที่เกี่ยวกับธุรกิจเอสเอ็มแอล(กองทุนหมู่บ้าน) ที่รัฐบาลตั้งไว้ 1.5 หมื่นล้านบาทก็ควรจะเร่งเบิกจ่าย ขณะเดียวกันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ราคาพืชผลการเกษตร ก็ควรเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชน
  • "มูดี้ส์" ระบุอุตสาหกรรมธนาคารในเอเชียมีแนวโน้มในเชิงลบเพิ่มขึ้น แต่อันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารโดยรวมยังมีเสถียรภาพ
  • สภาหอการค้าไทยคาดวิกฤติการเงินจะทำให้ GDP ในปี 52 โตแค่ร้อยละ 4 - 4.5 ร่วมถึงฉุดการส่งออก และการท่องเที่ยวของไทยในไปหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ