SCIBS แจงฟอร์ซเซล IEC,LIVE ถูกขั้นตอน, 2 สัปดาห์สรุปผลเสียหายอาจเร็วไป

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 17, 2008 15:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาธิต วรรณศิลปิน กรรมการผู้จัดการ สายงานนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย(SCIBS)เปิดผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การดำเนินการของบริษัทในการสั่งฟอร์ซเซลหุ้น LIVE หรือ IEC เป็นไปตามหลักเกณฑ์ทุกอย่าง และขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าเท่าใด แต่ก็อยู่ในความรับผิดชอบของลูกค้าที่ยังต้องเจรจาแก้ปัญหาภาระหนี้กันก่อน

"เรามีขั้นตอนมีคณะกรรมการดูแลตลอด สถานการณ์ไม่ใช่เป็นที่เราที่เดียว กับโบรกเกอร์อื่น ๆ ก็ประสบปัญหาคล้าย ๆ กัน มันเป็น systematic risk ในตลาดฯที่มันเกิดขึ้น"นายสาธิต กล่าว

อนึ่ง กระแสข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า SCIBS เสียหายถึง 650 ล้านบาทจาการสั่งฟอร์ซเซล 2 หุ้น IEC, LIVE ล่าช้า หลังจากราคาร่วงติดฟลอร์ 30% ถึง 3 วันกว่าจะรายงานให้คณะกรรมการทราบเพื่อสั่งฟอร์ซเซลเมื่อ 13 ต.ค.ขณะที่นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB)คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์รู้ผลความเสียหายดังกล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่หลัก ๆ ความรับผิดชอบเป็นของลูกค้าที่กู้ยืมเงินไปซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทจะต้องเจรจากับลูกค้าเกี่ยวกับแนวทางการชำระหนี้ หรือวางหลักประกันเพิ่ม

"ไม่ใช่เราเสียหาย แต่ลูกค้าเสียหาย...สิ่งที่จะบอกลูกค้าคือจะต้องเอามาชำระหนี้เรา เพราะฉะนั้นหน้าที่เราคือต้องตามลูกค้าให้มาชำระหนี้ให้ได้ หรือเอาหลักประกันอื่นมาเพิ่ม หรือประนอมหนี้ อะไรก็แล้วแต่ เราก็ดำเนินการอยู่ มันเป็นเรื่องของลูกค้าที่มีหนี้กับเรา ที่เราต้องตาม เราไม่ได้ขาดทุน และโบรกเกอร์ไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น"นายสาธิต กล่าว

กรรมการผู้จัดการ SCIBS กล่าวต่อว่า บริษัทเกี่ยวข้องในแง่ของคนกลางที่เป็นโบรกเกอร์ในการทำธุรกรรมนี้ให้กับลูกค้า ซึ่งบริษัทก็ทำทุกอย่างตามกติกา ไม่มีอะไรที่ผิดไปจากเกณฑ์ โดยบริษัทคาดหวังว่า 2 สัปดาห์นับจากนี้จะสรุปเรื่องได้ แม้จะมองว่าเร็วเกินไป

"เราจะสรุปได้ภายใน 2 สัปดาห์หรือไม่ว่าลูกค้าจะชำระหนี้หรือไม่ชำระ ถ้าเราสรุปได้ว่าลูกค้าเบี้ยวแน่แล้วไปฟ้องศาล ในทางบัญชีก็ต้องมีการบันทึกหนี้สงสัยจะสูญ แต่ถ้าเรามีการพูดคุยกับลูกค้าแล้วมีการประนอมหนี้กันได้ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้นะครับ เนื่องจากลูกค้านี้เป็นลูกค้าชั้นดี ความเสียหายก็ลดลงหรือไม่เสียหายเลย"นายสาธิต กล่าว

*สภาพคล่องหุ้นหายไปทันที หลังเกิด Panic หุ้น LIVE,IEC

นายสาธิต กล่าวว่า การสั่งฟอร์ซเซลสืบเนื่องมาจากราคาหุ้น LIVE และ IEC ในพอร์ตของลูกค้ามาร์จินปรับตัวลดลงมา ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความผิดปกติของตลาด และอาจจะมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การจัดเกรดหุ้นของโบรกเกอร์บางแห่ง ที่ทำให้นักลงทุนหรือโบรกเกอร์บางแห่ง Panic ขายหุ้นออกมาจนราคาผันผวนอย่างหนัก

"มาถึงจังหวะที่มีสภาพคล่องขายได้ ทางคณะกรรมการบริษัทฯก็ตัดสินใจให้ขาย มันไม่ได้ขายช้า แต่ตอนที่ผ่านมามันไม่มีสภาพคล่องให้ขาย เราจะขายแต่เราขายไม่ได้ มันมีแต่ offer ไม่มี bid ถ้าวอลุ่มมันค้างที่ Bid นี่สิ อันนี้มีประเด็นกับเรา ว่าเราไม่ขาย เราขายทุกวันครับ"

สำหรับหุ้นในพอร์ตของลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้เพียงหุ้น 2 ตัวนี้เท่านั้น แต่มีหุ้นรวม 4-5 ตัว แต่มีเพียง 2 ตัวที่เข้าเกณฑ์ถูกฟอร์ซเซล ซึ่งบริษัทก็ได้ดำเนินการไปตามเกณฑ์แม้ว่าจะสร้างความเสียหายให้กับลูกค้า แต่ก็ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องปฏิบัติ

"อะไรที่เราขายได้เราก็ขายออกไปในตลาดฯ แต่ราคาลงฟลอร์ 4 วันติดต่อกัน เราจะขายก็ขายไม่ได้ ถ้าเราไม่ฟอร์ซฯสิมีปัญหากับตลาดฯแน่ และมีปัญหากับลูกค้าด้วย คือถ้าฟอร์ซได้แล้วไม่ฟอร์ซ มันจะมีปัญหากับลูกค้า เพราะการไม่ฟอร์ซแสดงว่าเราไม่หยุดความเสียหายให้กับลูกค้า เพราะฉะนั้นมีข่าวไปว่าเราไม่ฟอร์ซน่ะผิดแล้ว เราทำทุกอย่าง ถูกขั้นตอน ตามเกณฑ์ ตามระยะเวลาที่ต้องทำ ไม่ได้ทำอะไรก่อนและหลัง ทุกอย่างเป็นไปตามเกณฑ์"

*สั่งหยุดเทรด LIVE, IEC ชั่วคราวสำหรับลูกค้ามาร์จิน

นายสาธิต กล่าวว่า บริษัทได้สั่งให้หยุดการซื้อขายหุ้น LIVE และ IEC ในพอร์ตของลูกค้าที่เล่นด้วยมาร์จิ้นไว้ชั่วคราวในระยะนี้ พร้อมทั้งขยับเกณฑ์การวางหลักประกันขึ้นมาเป็น 45% สำหรับหุ้นทุกตัว เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดหุ้นมีความผันผวนอย่างมาก

"พอมันมีปัญหาเกิดขึ้นเราก็ได้หยุดให้ทำการซื้อขายหุ้น IEC, LIVE ไว้ก่อน และได้มีการขยับเกณฑ์มาร์จินขึ้นไป โดยให้มีการ Call เลยตั้งแต่ 45% ซึ่งเราได้ปฏิบัติอย่างนี้มานานแล้ว คือบอกลูกค้าเลยให้เอาหลักประกันมาวางเพิ่ม ถ้าลูกค้าไม่เอาหลักประกันมาเพิ่ม ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจเป็นราย ๆ ไป อาจจะขอให้ปิดบัญชี หรืออะไรก็แล้วแต่ว่าไป จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป จะดูศักยภาพของลูกค้าด้วย แต่ในแง่ของการเทรดเข้าใจว่าลูกค้าที่จะเทรดหุ้น IEC, LIVE จะต้องใช้บัญชีเงินสด"นายสาธิต กล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า เกณฑ์การปล่อยมาร์จินให้แก่ลูกค้าเป็นไปตามมาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์ที่กำหนดไว้อยู่แล้ว ในสัดส่วนของเรียกเงินวางหลักประกัน(Call margin) และการทำฟอร์ซเซล อยู่ที่ 35:25 ซึ่งที่ผ่านมา Maintianance Margin ของลูกค้ากลุ่มนี้จากระดับ 50-60% ลดลงมาต่ำสุดภายในวันเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ แต่ลูกค้าก็ยังมีหลักประกันสูง

"เราปรับเกณฑ์การปล่อยมาร์จินเหมือนกันกับโบรกฯอื่น เราจะคุยกับลูกค้าที่ 40-45% แต่กรณีนี้มันวูบเดียว ลงไปเลยไง ถ้ามันไม่ใช่วูบเดียวก็ไม่มีใครเสียหายหรอกครับ ลูกค้าก็เสียหายไม่เยอะ แต่เนื่องจาก liquidity ในตลาดฯมันหายไปเลย แล้วมันเกิดอะไรขึ้นผมก็ไม่แน่ใจนะ แต่มันฟลอร์ ฟลอร์ ฟลอร์ แบบนี้ไม่เคยเห็น ก็มีคนพูดเหมือนกันว่าเป็นเพราะ TSFC ปรับลดเกรดหุ้นบางตัว ผมก็ไม่ได้โทษนะ แต่ก็มีคนพูดอย่างนั้น พอมันเกิดแบบนั้นปั๊บมันก็เกิดเป็นโดมิโน"นายสาธิต กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทฯมีวงเงินการปล่อยมาร์จินให้ลูกค้าครึ่งหนึ่งของทุน 2,000 ล้านบาท โดยปล่อยมาร์จิ้นไปแล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีการรายงานให้บอร์ดบริษัทฯทราบอย่างสม่ำเสมอ ทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนปกติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ