บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน(ROBINS)ยอมรับว่ายอดขายในช่วงครึ่งปีหลังคงจะชะลอตัวจากในครึ่งปีแรกที่เติบโตได้ในระดับ 13.4% แม้ว่ายอดขายในไตรมาส 3/51 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 2/51 ที่มีรายได้ 3,346.03 ล้านบาท แต่ไตรมาส 4/51 เชื่อว่าจะเห็นการชะลอตัว ไม่ดีเท่าปีก่อน เพราะสาขาหลักๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยลง อีกทั้งประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้อนุมัติข้อบังคับบริษัทโครงการซื้อหุ้นคืนแล้วตามที่คณะกรรมการฯ เสนอ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯมีสภาพคล่องทางการเงินสูง อีกทั้งไม่มีภาระหนี้
แหล่งข่าวจาก ROBINS กล่าวกับ “อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 3/51 จะน้อยกว่าช่วงไตรมาส 2/51 ที่มีรายได้ 3.02 พันล้านบาท เนื่องจากยอดขายของห้างสรรพสินค้าโรบินสันเริ่มชะลอตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาใช้บริการลดลง โดยเฉพาะศูนย์การค้าที่อยู่ใจกลางเมือง อาทิ ถนนรัชดาภิเษก และถนนสุขุมวิท
ทั้งนี้ เชื่อว่าการระมัดระวังการใช้จ่ายและการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังคงมีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/51 ด้วย โดยที่ผ่านมา 1 เดือนทิศทางยังคงเป็นการชะลอตัว ทำให้ยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังจะลดลงจากช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 6.1 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 13.4% ดังนั้น ครึ่งปีหลังยอดขายจะเติบโตน้อยกว่าครึ่งปีแรก
ด้านแผนซื้อหุ้นคืนนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนได้แต่ภายหลังการแก้ไขข้อกำหนดบริษัทแล้วสามารถเข้าซื้อหุ้นคืนได้ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแล้วทำให้สามารถดำเนินการได้ทันที นอกจากนี้บริษัทยังอนุมัติให้บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา(CPN) เช่าที่ดินของบริษัทโรบินสันนครินทร์ที่ ROBINS ถือหุ้น 99.86%