ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และกลุ่มเหมืองดีดตัวขึ้นเช่นกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 201.62 จุด หรือ 5.2% ปิดที่ 4,063.01 จุด
โทนี ดอลฟิน นักวิเคราะห์จากบริษัท Henderson Global Investors ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากรัฐมนตรีกลุ่มโอเปคประกาศเลื่อนการประชุมฉุกเฉินให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 24 ต.ค.จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 18 พ.ย. ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าโอเปคจะใช้การประชุมฉุกเฉินครั้งนี้เป็นโอกาสในการลดเพดานการผลิตลงประมาณ 1 ล้านบาร์เรล หรือมากกว่า
ทั้งนี้ หุ้นบีพีทะยานขึ้น 8.6% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดขึ้น 8.4%
ส่วนหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ทะยานขึ้น โดยหุ้นแกลคโซสมิธไคลน์ดีดขึ้น 8.6% หุ้นไชร์พุ่งขึ้น 7.4% และหุ้นแอสตราซิเนกาทะยานขึ้น 5.2% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองปิดบวก โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ดีดขึ้น 12.3% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 10.4% และหุ้นริโอ ทินโต ปิดบวก 9.8%