นักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กสัปดาห์นี้ยังคงไร้ทิศทาง เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากไม่มั่นใจในมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลประกอบการของบริษัทสหรัฐและข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ และข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์
เอ็ดเวิร์ด ยาร์เดนี ประธานบริษัทยาร์เดนี รีเสิร์ช กล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนมากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากหลากหลายปัจจัย รวมถึงความไม่เชื่อมั่นในมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินของรัฐบาลสหรัฐ และข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยเร็วกว่าที่คิด"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ประจำเดือนก.ย.ร่วงลง 6.3% แตะที่ 817,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับลงเพียง 2.6% แตะระดับ 872,000 ยูนิต
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐตกต่ำลงมากที่สุดในรอบหลาย 10 ปี เนื่องจากประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยากขึ้นนับตั้งแต่ทางการสหรัฐประกาศใช้มาตรการเข้มงวดในการปล่อยกู้ หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ในตลาดซับไพรม์ นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังได้รับผลกระทบรุนแรงจากราคาที่อยู่อาศัยที่ทรุดตัวลงด้วย
ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนต.ค.ของสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับ 57.5 จุด จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 7.3 จุด ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ใคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 65 จุดในเดือนต.ค.
ลินน์ ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด กล่าวว่า "ภาวะทางธุรกิจที่อ่อนแอและการจ้างงานที่ลดน้อยลง ประกอบกับการความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะสั้น ยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ นอกจากนี้ ผู้บริโภคคาดว่าแนวโน้มการประกอบธุรกิจและตลาดแรงงานจะซบเซาลง และรายได้จะปรับตัวลดลงด้วย"
ตัวเลขสร้างบ้านใหม่และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงเกินคาดของสหรัฐเป็นในปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 127.04 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 8,852.22 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ รวมถึงบริษัทโบอิ้ง ไมโครซอฟท์ คาร์เตอร์พิลลาร์ เอทีแอนด์ที อัลเทรีย กรุ๊ป และ 3M
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์ได้แก่ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย. ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานประจำสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสอง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแสดงมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของสภาคองเกรส สำนักข่าวเอพีรายงาน