ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 413.21 จุดหลัง"เบอร์นันเก้"หนุนใช้มาตรการพยุงศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 21, 2008 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้ใช้มาตรการพยุงเศรษฐกิจฉบับที่สอง นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าสหรัฐจะรับเป็นหน้าเสื่อในการจัดประชุม G8 เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินทั่วโลก ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวจะสามารถคลี่คลายลงได้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 413.21 จุด หรือ 4.67% แตะที่ 9265.43 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 44.85 จุด หรือ 4.77% แตะที่ 985.40 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 58.74 จุด หรือ 3.43% แตะที่ 1,770.03 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.23 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.06 พันล้านหุ้น

ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ผู้นำสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม G8 หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยการเปิดเผยครั้งนี้มีขึ้นในระหว่างที่บุชและประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส และนายโฮเซ่ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป หารือร่วมกันที่แคมป์เดวิดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

คิม ยัง อิล นักวิเคราะห์จากบริษัท Korea Investment Trust Management Co.กล่าวว่า "เราคาดว่าตลาดการเงินทั่วโลกจะมีเสถียรภาพมากขึ้นภายในเดือนนี้หรืออาจจะต้นเดือนหน้า หลังจากรัฐบาลทั่วโลกร่วมมือกันใช้มาตรการฟื้นฟูระบบการเงิน อย่างไรก็ตาม เรามองว่าการจะให้ตลาดการเงินกลับมาแข็งแกร่งได้เหมือนเดิมนั้น อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง"

ไรอัน ลาสัน นักวิเคราะห์จากบริษัท Voyageur Asset Management กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคักหลังจากเบอร์นันเก้แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งสภาคองเกรสว่า "เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่สหรัฐจะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สอง หลังจากสภาคองเกรสและวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติมาตรการ 7 แสนล้านดอลลาร์ให้มีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้"

"นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ที่ปรับตัวลดลง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะสินเชื่อตึงตัว อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอีกใน 2-3 ไตรมาสข้างหน้า และมีความเสี่ยงมากมายที่จะฉุดรั้งให้เศรษฐกิจเผชิญช่วงขาลง" ลาสันกล่าว

ภาวะการซื้อขายคึกคักยิ่งขึ้นเมื่อสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์วิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด 0.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนและตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังพอมีความหวังที่จะฟื้นตัวขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ

นอกจากนี้ นักลงทุนขานรับข่าว วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยเขาเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ในหัวข้อ "Be fearful when others are greedy, and greedy when others are fearful" ซึ่งระบุว่า "การวิตกกังวลมากเกินไปว่าวิกฤตการณ์การเงินจะส่งผลกระทบต่อบริษัทสหรัฐนั้น เป็นท่าทีที่ไม่ฉลาด ผมเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทในสหรัฐจะกลับมามีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเชื่อว่าตลาดหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นก่อนเศรษฐกิจเสียอีก"

หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นตามราคาน้ำมันตลาด NYMEX ที่ดีดตัวขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ และยังได้รับแรงหนุนจากนักวิเคราะห์ของบริษัท ออพเพนไฮเมอร์ แอนด์ โค ที่แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นเชฟรอน และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้นกว่า 10%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ