BAY เผย Q3/51 บันทึกขาดทุน CDOs 852 ลบ.,Net NPL อยู่ที่ 4.30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 21, 2008 08:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3/51 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนการปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสาร Collateralized Debt Obligation-CDOs และก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเงินได้ จำนวน 3,863 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 843 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.9 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/50

ในไตรมาสนี้ธนาคารได้บันทึกขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสาร CDOs จำนวน 852 ล้านบาท ซึ่งทำให้ราคายุติธรรมของตราสาร ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 เท่ากับร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุน โดยสาเหตุหลักเกิดจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์ที่ใช้เป็นสินทรัพย์อ้างอิงของตราสารลดลง

ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 2,187 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.0 ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 1,055 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.5 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/50 ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1,141 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.6 ในไตรมาสนี้ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 1,719 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของสินเชื่อรายย่อยจากร้อยละ 21.7 ณ สิ้นปี 50 เป็นร้อยละ 33.5 ณ สิ้นไตรมาส 3/51 และเมื่อหักภาษีเงินได้จำนวน 275 ล้านบาทแล้ว ธนาคารและบริษัทย่อยบันทึกกำไรสุทธิจำนวน 1,019 ล้านบาทในงวดไตรมาส 3/51

สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 51 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนการปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสาร CDOs และก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และภาษีเงินได้ จำนวน 10,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,948 ล้านบาท หรือร้อยละ 56.8 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในงวดนี้ธนาคารได้บันทึกขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสาร CDOs จำนวน 1,714 ล้านบาท ซึ่งทำให้ราคายุติธรรมของตราสาร ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 เท่ากับร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุน โดยสาเหตุหลักเกิดจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์ของสถาบันการเงินที่ใช้เป็นสินทรัพย์อ้างอิงของตราสารลดลง

BAY ยังรายงานสถานะหนี้ด้อยคุณภาพ(NPL) ณ สิ้นไตรมาส 3/51 ธนาคารมี Net NPL จำนวน 23,940,807,827.47 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.30 ของเงินให้สินเชื่อรวมหลังหักเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ส่วน Gross NPL อยู่ที่ 45,699,460,233.66 บาท คิดเป็นร้อยละ 7.91 ของเงินให้สินเชื่อรวมก่อนหักเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ

ส่วนเงินสำรองสำหรับลูกหนี้ที่ต้องกันตามเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนดประจำไตรมาส สิ้นสุด 30 ก.ย.51 จำนวน25,515,364,804.98 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ