นายคมสันต์ ปรมาภูติ ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณที่ดีจากทางสหรัฐจากสภาพคล่องการกู้ยืมระหว่างธนาคารในสหรัฐที่เริ่มดีขึ้น และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ซึ่งขณะนี้เทรดเดอร์ในสหรัฐเริ่มหันมามองจุด bottom กันแล้ว เพราะคิดว่าข่าวร้ายในสหรัฐได้สะท้อนเข้ามาในตลาดระดับหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้ วานนี้(20 ต.ค.)ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจในสหรัฐก็มีการปรับตัวขึ้น พลิกจากที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะปรับตัวลง โดยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด 0.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนและตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2% ปัจจัยเหล่านี้น่าจะเป็นสัญญาณที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาได้
ส่วนการประชุมโอเปคในวันศุกร์นี้(24 ต.ค.)คาดว่าน่าจะมีการลดกำลังการผลิตเพื่อยับยั้งไม่ให้ราคาน้ำมันไหลลงไปได้ชั่วคราว ดังนั้น หุ้นในกลุ่มพลังงานอาจจะรีบาวน์ได้ในช่วงสั้น
สำหรับปัจจัยทางการเมืองไทย ขณะนี้หลายคนอยากจะให้จบโดยเร็ว แต่เมื่อยังไม่สามารถจบได้ก็คงจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดต่อไป
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 472 จุด แนวต้าน 488 จุด แนะซื้อเก็งกำไรช่วงสั้นได้ โดยแนะนำหุ้น QH, LH, PTTCH และ KBANK
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้(20 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 9,265.43 จุด เพิ่มขึ้น 413.21 จุด(-4.67%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 985.40 จุด เพิ่มขึ้น 44.85 จุด(+4.77%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,770.03 จุด เพิ่มขึ้น 58.74 จุด (+3.43%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 181.46 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 74.25 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์หรือ 3.34%
- ลุ้นศาลตัดสิน "ทักษิณ-พจมาน" คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯบ่ายวันนี้ ศาลงัดระเบียบป้องกันความวุ่นวาย ห้ามใช้พฤติกรรมไม่เหมาะสม ขู่ฝ่าฝืนโดนข้อหาละเมิดศาล ด้าน ตร.นครบาลเตรียมกำลัง 2 กองร้อยรับมือ ป้องกันเหตุปะทะสองกลุ่มผู้ชุมนุม ด้าน ส.ส.เชียงใหม่ปัดข่าวระดมคนบุกกรุง ขณะที่พันธมิตรใช้ดาวกระจาย ถ.สุขุมวิทแจกซีดี-เอกสารสลายชุมนุมหน้ารัฐสภา จี้นายกฯ ลาออกรับผิดชอบ
- "สุชาติ" แนะ ธปท.ใช้นโยบายกำหนดเป้าหมายค่าเงินบาทแทนเงินเฟ้อดูแลภาพรวมเศรษฐกิจ ระบุควรบริหารเงินบาทให้ค่าต่ำกว่าเป็นจริง 5% เพื่อให้การส่งออกขยายเพิ่มอีกเท่าตัว และดึงให้จีดีพีปีหน้าสูงกว่า 4% ด้าน"ธาริษา"ชี้การดูแลให้บาทเคลื่อนไหวไปกับภูมิภาคเป็นวิธีการดูแลค่าเงินดีที่สุด ด้านรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ อัดเงิน 1 หมื่นล้านยูโร ช่วยสภาพคล่อง"ไอเอ็นจี"
- ขณะนี้มีภาคเอกชนรายใหญ่ของไทย ประกอบด้วย เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือมิตรผล และเครือดั๊บเบิ้ลเอ ได้ย้ายฐานการผลิตเข้าไปลงทุนด้านภาคอุตสาหกรรมการเกษตร ที่แขวงสะหวันนะเขต ของ สปป.ลาว จำนวนมาก
- รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันที่ 21 ต.ค.นี้ จะเชิญผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทุกประเภททั่วประเทศมาฟังเหตุผลที่ต้องการให้ลดค่าโดยสาร จากนั้นคาดวันที่ 22 ต.ค.นี้ จะประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อพิจารณาสัดส่วนค่าโดยสารที่ต้องปรับลดลงว่าควรจะเป็นเท่าไร
- นักเศรษฐศาสตร์วิตกสหรัฐเผชิญภาวะเงินฝืด หลังราคาน้ำมันกับโภคภัณฑ์ดิ่ง อาจฉุดเงินเฟ้อสหรัฐปีหน้าต่ำศูนย์ ขณะที่ลดดอกเบี้ยต่อเนื่องอาจกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อระยะยาว จี้เฟดกับรัฐบาลตื่นตัวลดความเสี่ยง ระวังความเสียหายอาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ
- ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ธปท.ควรดำเนินนโยบายแบบชี้นำเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการลงทุนที่แท้จริง เพราะหากลดเร็วเกินไปเพื่อผลทางจิตวิทยาเพียงอย่างเดียว อาจเป็นการทำหน้าที่ของ ธปท.ที่ไม่ดีนัก