ตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากปัจจัยหนุนที่ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสจะลงทุนในธุรกิจธนาคารเป็นมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับความเคลื่อนไหวของสหรัฐที่ผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สอง ส่วนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก็ช่วยกระตุ้นหุ้นในกลุ่มพลังงานให้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก อย่างไรก็ตาม ดัชนีล่วงหน้าตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08.30 น. ตามเวลาในกรุงลอนดอน ดัชนี MSCI World Index ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% แตะที่ 995.2 จุด ซึ่งดีดตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 4.4% จากสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะที่รัฐบาลอัดฉีดเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจธนาคารและสร้างเสถียรภาพในระบบการเงิน
นอกจากนี้ ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 Index เดินหน้าขึ้น 1% ส่วนดัชนี MSCI Asia Pacific Index ถีบตัวสูงขึ้น 2.3% อย่างไรก็ตามดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าปรับตัวลดลง 0.5% หลังจากที่บ.เท็กซัส อินสตรูเมนท์ อิงค์ คาดการณ์ผลกำไรต่ำกว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์
ลูซี่ แมคโดนัลด์ นักวิเคราะห์จาก RCM Ltd กล่าวว่า "บรรยากาศการซื้อขายค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ในตลาดเงินที่เริ่มมองเห็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่รัฐบาลประกาศอัดฉีดเข้าสู่ระบบ และความเคลื่อนไหวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นการแก้ปัญหาที่มาถูกทาง"
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาขานรับถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สนับสนุนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สอง ประกอบกับการเปิดเผยผลกำไรของฮาลิเบอร์ตันที่สูงกว่าคาดการณ์ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกจากอานิสงส์ของหุ้นในกลุ่มพลังงานและสินค้าผู้บริโภค