ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นแบงค์ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 52.94 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 22, 2008 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงวันแรกในรอบการซื้อขาย 3 วัน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นธนาคาร HSBC และธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ดิ่งลงหนักสุด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 52.94 จุด แตะที่ 4,229.73 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,212.37-4,347.69 จุด

เดวิด บูอิค นักวิเคราะห์จากบริษัท BCG Partners กล่าวว่า นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารเพราะยังวิตกกังวลเรื่องวิกฤตการณ์ในตลาดการเงินและภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อ รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้มากมายว่าอังกฤษกับเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงไปด้วย

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสามของอังกฤษจะชะลอตัวลง ขณะที่สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (ซีบีไอ) รายงานว่า ผู้ผลิตสินค้าในอังกฤษอาจจะปรับลดการผลิตลงอย่างรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี และอาจมีการปรับลดตำแหน่งงานลงกว่า 60,000 ตำแหน่งก่อนสิ้นปีนี้

Ernst & Young's ITEM Club กล่าวว่า เศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วและจะหดตัวลงในช่วง 3 ไตรมาส ขณะที่วิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นกำลังกดดันให้รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินหลายแห่งที่ประสบปัญหา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลได้ทุ่มเงิน 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ กรุ๊ป พีแอลซี, เอชบีโอเอส และ ลอยด์ส ทีเอสบี กรุ๊ป พีแอลซี ในขณะที่แบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ พีแอลซี ก็ถูกซื้อกิจการเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นอร์ธเทิร์น ร็อค พีแอลซี ก็ถูกแปรรูปเป็นของรัฐ

ทั้งนี้ หุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 3.6% หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 6.2% หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 8.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ