นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ (SGP) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงกรณีที่ราคาหุ้น SGP ปรับตัวขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวเรื่องที่บริษัทฯจะมีพันธมิตรใหม่ว่า ทางบริษัทฯไม่ได้เจาะจงเจรจาหาพันธมิตในขณะนี้ และยอมรับว่ามีกองทุนหลายรายสนใจเข้ามาลงทุน ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์
"ก็ไม่ทราบว่าเป็นใครจนกว่าจะมีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเหล่าบรรดากองทุนที่เข้ามาลงทุน"นายศุภชัย กล่าว
สืบเนื่องจากงานไทยแลนด์ โฟกัส ที่บริษัทฯได้ไปนำเสนอข้อมูลให้ผู้จัดการกองทุนต่าง ๆ ได้รับทราบ ซึ่งก็มีกองทุนต่างประเทศเข้าฟังด้วย และแสดงความสนใจที่จะลงทุน เนื่องจาก SGP เป็นบริษัทใหม่ที่เพิ่งจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ และมีการเติบโตสูง โดยบริษัทมีแผนลงทุนเพิ่มในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทน อย่างธุรกิจเอทานอล และธุรกิจถ่านหิน
นายศุภชัย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังไม่คิดที่จะขายหุ้นออกมา เพราะต้องการรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ ดังนั้น หากกองทุนใดต้องการเข้ามาลงทุนใน SGP ก็คงจะต้องไปซื้อในกระดานแทน ซึ่งมีจำนวนหุ้นอยู่ประมาณ 280 ล้านหุ้น
"ไม่ใช่เฉพาะ เจ.พี.มอร์แกน เท่านั้นที่สนใจลงทุนใน SGP แต่ยังมีอีกหลายกองทุนที่สนใจ ซึ่งหลังจาก Present แล้วก็มองเห็นว่าพวกเขาได้มองภาพของบริษัทเป็น Positive ดังนั้นในอนาคตหากบริษัทมีความจำเป็นจะต้องใช้เงินก็อาจจะเปิดให้เข้ามาลงทุนได้ แต่ตอนนี้บริษัทยังไม่ต้องการ"กรรมการผู้จัดการ SGP กล่าว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า รายได้ของธุรกิจเอทานอลจะเริ่มเข้าในต้นปี 52 และบริษัทจะพยายามทำให้ถึงจุดคุ้มทุนให้เร็วที่สุดจากแผนที่คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 6 ปี แต่ก็คาดหวังว่าจะทำได้เร็วกว่านั้น นอกจากนี้ บริษัทยังพยายามที่จะหาแนวทางทางลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนที่หลากหลายมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนจะซื้อหุ้นคืน หลังจากราคาหุ้น SGP ได้ปรับตัวลงมามาก โดยล่าสุดราคาหุ้นอยู่ที่ 5.40 บาท จากราคา IPO ที่ 8 บาท ซึ่งขณะนี้ฝ่ายบริหารกำลังหารือกัน คาดว่าจะสรุปผลได้ในช่วงต้น พ.ย.นี้
"ราคาหุ้น SGP ในปัจจุบันนี้ถือว่าต่ำกว่าราคา IPO ที่ 8 บาท เราก็ไม่พอใจนะ เพราะเรามีศักยภาพขนาดนี้ ราคาหุ้นควรจะสอดคล้องกับพื้นฐานของบริษัท แต่เราก็เข้าใจส่วนใหญ่มันเป็นการรับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงเรื่องการเมืองด้วย"นายศุภชัย กล่าว
กรรมการผู้จัดการ SGP กล่าวอีกว่า จากการที่ครม.มีมติให้กระทรวงพลังงานพิจารณาปรับราคาก๊าซ LPG ให้สอดคล้องกับกลไกตลาด ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคา LPG ขึ้นไป 4 บาท/กิโลกรัม ก็คาดว่าจะส่งผลให้รายได้ในส่วนของ LPG เพิ่มขึ้น 50% หรือคิดเป็น 2,500 ล้านบาทหากคำนวณจากเป้าหมายรายได้ธุรกิจ LPG ในปี 51 ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยคิดเป็น 40% ของรายได้รวมของบริษัทฯที่ปีนี้ 51 ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจ LPG ของบริษัทฯจะแบ่งสัดส่วนเป็นรายได้ที่จากรถยนต์ 20% และจากอุตสาหกรรมอีก 20%
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.43 น.ราคาหุ้น SGP อยุ่ที่ 5.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.59 บาท(+12.66%)มูลค่าซื้อขาย 108.49 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 4.84 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 4.84 บาท