ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปล่วงหน้าร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจะฉุดรั้งผลประกอบการของบริษัทเอกชนลดลงด้วย ขณะที่ค่าเงินยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 07.08 น.ตามเวลากรุงลอนดอน ดัชนี Dow Jones Euro Stoxx 50 Index ซึ่งเป็นดัชนีล่วงหน้าที่ชี้วัดตลาดหุ้นในภูมิภาคยุโรป ร่วงลง 79 จุด หรือ 3.1% แตะที่ 2,510 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าเดือนธ.ค. ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วงลง 1.7% และดัชนี MSCI Asia Pacific Index ดิ่งลง 4.8%
แมท บัคแลนด์ นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า หุ้นธนาคาร HBOS และรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ มีแนวโน้มร่วงลง หลังจากนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มถดถอย และคาดว่าหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน จะร่วงลง หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายอาจซบเซาลงเนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วง 231.77 จุด หรือ 2.50% แตะที่ 9033.66 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัท ดูปองท์, บริษัท ซันไมโคร ซิสเต็มส์ และบริษัท เท็กซัส อินสตรูเมนท์ส ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัทในสหรัฐและภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ
นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ รวมถึงบริษัทโบอิ้ง ไมโครซอฟท์ แคทเทอร์พิลลาร์ เอทีแอนด์ที อัลเทรีย กรุ๊ป และ 3M ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานประจำสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสอง