ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลง 4.5% เมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงกว่า 500 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทเอกชน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 188.8 จุด ปิดที่ 4,040.89 จุด
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลงกว่า 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ดิ่งลงด้วย โดยหุ้นบีพีร่วงลง 5.5% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 4.1% หุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ร่วงลง 5.2% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลตัน รูดลง 6.7% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 10%
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ แม้บีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่สุดของโลก แสดงความเชื่อมั่นว่าความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์จากจีนจะยังแข็งแกร่งในระยะยาวแม้เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก โดยดูได้จากยอดส่งออกแร่เหล็กจากออสเตรเลียไปยังจีนที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรก
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในตลาดการเงินทั่วโลก โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดิ่งลง 1.7% หุ้นธนาคาร HSBC ร่วงลง 10% และหุ้นธนาคารสแตนดาร์ ชาร์เตอร์ด ดิ่งลง 11.1%