บมจ.น้ำประปาไทย (TTW) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากผลจากกำไรสุทธิของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนประจำปี 2550 ซึ่งปรากฏว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 724 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท หรือ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 598.5 ล้านบาท
และ มีมติให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาซื้อขายน้ำประปากับการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่งการเจรจาตกลงเงื่อนไขของสัญญาและการรอผลการอนุมัติที่เกี่ยวข้องจากคณะกรรมการของการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.)ให้เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ
ตามสัญญาดังกล่าวกปภ.จะซื้อน้ำประปาจากบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 100,000 ลูกบาศก์ เมตร/วัน ซึ่งบริษัทฯ จะต้องก่อสร้างส่วนขยายกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานจากเดิม 320,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน เป็น 440,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งวงเงินก่อสร้างส่วนขยายเป็นจำนวนไม่เกิน 1,300 ล้านบาท
และคณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ว่าจ้างบมจ.ช.การช่าง(CK)เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธา และให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญา Mechanical & Electrical Contract กับบริษัท ส.นภา (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขยายและเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติให้บริษัทฯ ออกตราสารหนี้ในรูปของตั๋วเงินและ/หรือหุ้นกู้ อายุไม่เกิน 10 ปี เพื่อนำเงินที่ได้มาชำระคืนเงินกู้ระยะยาวให้กับผู้ให้กู้ และ/หรือนำมาเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิตของโรงงาน
ทั้งนี้ มีเงื่อนไขว่าหากกลุ่มผู้ให้กู้อนุมัติข้อร้องขอของบริษัทฯ ทั้งหมดตามหนังสือดังกล่าวจำนวนเงินรวมของตราสารหนี้ที่จะออกไม่เกิน 1,500 ล้านบาท หรือ หากกลุ่มผู้ให้กู้ไม่อนุมัติข้อร้องขอของบริษัทฯข้อใดข้อหนึ่งตามหนังสือดังกล่าว จำนวนเงินรวมของตราสารหนี้ที่จะออกไม่เกิน 7,500 ล้านบาท
จำนวนเงินของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติข้อร้องขอของบริษัทตามหนังสือที่บริษัทได้ส่งให้ กับผู้ให้กู้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 เกี่ยวกับ การขอขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินต้น, การขอลดอัตราดอกเบี้ย , การขอแก้ไขหรือเปลี่ยนอัตราส่วนทางการเงินบางประการในสัญญาเงินกู้, การขออนุมัติออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยมีอายุของตราสารหนี้ไม่เกิน 7 ปี
รวมถึงการขอปลดภาระการให้การสนับสนุนทางการเงินของผู้สนับสนุนทางการเงินทุกราย ,การขอปลดหุ้นที่ไม่ได้ติด จำนำกับผู้ให้กู้ของบริษัทฯ ซึ่งถือ โดย CK , บริษัท มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บมจ. ทางด่วนกรุงเทพ (BECL)และติดระยะเวลาที่ถูก ห้ามขาย (silent period) เป็นลำดับแรก และ การขอใช้บริการโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร (e-dividend service)