ดัชนี SET ภาคบ่ายร่วง 7% โบรกฯระบุหลายปัจจัยต้องจับตาสัปดาห์หน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 24, 2008 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงเป็น 7% หลังจากร่วงมา 6% ตั้งแต่เปิดทำการช่วงบ่าย เนื่องจากปัจจัยรอบด้านยังเป็นลบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ยังจะต้องจับตาต่อไปในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.35 น.ดัชนี SET ลดลง 32.70 จุด มาที่ 432.54 จุด -7.03% โดยในช่วงเปิดทำการภาคบ่ายดัชนี SET อยู่ที่ 434.85 จุด ลดลง 30.39 จุด (-6.36%)

บทวิเคราะห์ บล.ฟินันซ่า คาดว่า บ่ายนี้ดัชนี SET อาจลงต่อมาทดสอบแนวรับใหม่แถวๆ 424-434 จุด แต่ทั้งนี้เริ่มเกิดสัญญาณ Bullish Divergence โดยดัชนีพร้อมรีบาวน์อย่างแรงหากปรับตัวเกิน 454 จุด

ในช่วงเช้าดัชนี SET หลุดจุดต่ำสุดเดิมที่ 450 จุดโดยเช้านี้ลงต่ออีก 25 จุด (-5%) ปิดที่ 439.96 จุด ต่ำสุดในรอบ 5 ปี 4 เดือน นับแต่ 17 มิ.ย.06 ซึ่งการลดลงดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับเพื่อนบ้านที่ MSCI Asia Pacific Index ขณะนี้ลบไปราว 5% เช่นกัน จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆที่เศรษฐกิจโลกจะถดถอยอย่างรุนแรง โดยดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบกว้างขึ้นเป็น 350 จุด (-4%)

หุ้นแดงกระจายทั้งพลังงาน (ครอบครัว PTT ลงเฉลี่ย 7%) แบงก์ (โดยเฉพาะแบงก์ลูกครึ่งอย่าง BAY/TMB/ TCAP ที่ลบไปกว่า 10%) และอสังหาฯ (หุ้นตระกูลอัศวโภคินทั้ง LH/ QH/ AP ดิ่ง 8%)

ไฮไลต์สุดสัปดาห์นี้ชี้ไปที่การเงินสหรัฐฯ & การเมืองไทย คือ นักวิเคราะห์คาดว่ารัฐบาลสหรัฐจะประกาศรายชื่อธนาคารที่จะได้รับการอัดฉีดเงินทุนรอบต่อไปภายใต้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน ซึ่งตลาดตีความว่าจะสถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่ทนพิษบาดแผลจากซัพไพร์มไม่ไหวจนรัฐต้องเข้ามาอุ้ม และความเสี่ยงในการเผชิญหน้ากันของกลุ่ม นปช.และกลุ่ม พธม.

ส่วนเหตุการณ์สำคัญสัปดาหน้ามี 3 เรื่องหลัก คาดว่า FED จะลดดอกเบี้ยอีก 0.50% เหลือ 1% เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐ กำหนดประชุม 28-29 ต.ค. ขณะที่ 5 บจ. เช่น SAMART/ LANNA/ SECC ขึ้น XD มีผลน้อยมากต่อ SET แต่กระทบตัวแม่หนักในกรณีของ SECC ที่แจกปันผลทั้งในรูปหุ้น (10:4) และเงินสด (0.0445 บาท/หุ้น) XD วันพุธ (29) คาดราคาร่วง 20%

และ จับตาผลประชุมครม.อังคารหน้าคาดอนุมัติใน 2 เรื่องใหญ่ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนและสีเขียวเข้มวงเงิน 4 หมื่นลบ. และ ยืดอายุการค้ำเงินฝากทั้ง 100% ออกไปอีก 3 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุด 10 ส.ค.ปีหน้าเพื่อเรียกความเชื่อมั่น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ