ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดลงเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) ร่วงลงมากกว่า 3.5% เนื่องจากความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเกิดแรงเทขายในวอลล์สตรีทตามหลังตลาดหุ้นยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลางที่ปิดดิ่งลงก่อนหน้านี้ ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์ก รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกเดินหน้าลงเป็นเพราะความกลัวว่าเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่วิกฤตการเงินขยายวงกว้างขึ้น
แม้ตัวเลขยอดขายบ้านที่กระเตื้องขึ้นเหนือความคาดหมาย 5.5% ในเดือนก.ย. จากการเปิดเผยของสมาคมนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ ก็ไม่สามารถเป็นปัจจัยบวกเข้าหนุนตลาดได้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 312.30 จุด หรือ 3.59% แตะที่ 8,378.95 จุด หลังจากที่ดิ่งลงไปถึง 504 จุดในการซื้อขายระหว่างวัน ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดร่วง 31.34 จุด หรือ 3.45% แตะที่ 876.77 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 51.88 จุด หรือ 3.23% แตะที่ 1,552.03 จุด
ปริมาณการซื้อขายรวมในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 6.45 พันล้านหุ้น เทียบกับ 7.05 พันล้านหุ้นในวันพฤหัสบดี และมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1
ทั้ง S&P 500 และ Nasdaq ทรุดลงมากกว่า 40% นับตั้งแต่เมื่อต้นปีนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงเกือบ 37% โดยต้นเหตุของความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นทั่วโลกนั้นมีที่มาจากวิกฤตการเงินในสหรัฐที่แผ่ขยายลุกลามไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก
ระดับปิดของดาวโจนส์ในวันศุกร์ถือเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 25 เม.ย. 2546 ซึ่งปิดที่ 8,306.35 จุด ขณะที่ระดับปิดของ S&P 500 ต่ำสุดนับแต่ 11 เม.ย. 2546 ซึ่งดัชนีปิดที่ 868.30 และ Nasdaq ต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 พ.ค. 2546 ซึ่งในครั้งนั้นปิดที่ 1,510.09 จุด
ความวิตกว่าเศรษฐกิจโลกกำลังคืบคลานเข้าสู่ภาะถดถอยทุกขณะได้รับการตอกย้ำจากแนวโน้มผลประกอบการที่ไม่สดใสของผู้ผลิตสินค้าอิเล็คทรอนิคส์รายใหญ่อย่าง โซนี่ และบริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่ เดมเลอร์ ส่งผลให้หุ้นของสองบริษัทถูกเทขายอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม การร่วงลงในตลาดหุ้นนิวยอร์กก็ไม่ถึงขั้นเลวร้ายในสายตาของนักวิเคราะห์บางรายที่หวั่นว่าวอลล์สตรีทจะปิดลบมากกว่านี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดดิ่งลงก่อนหน้านี้ หลังจากข้อมูลข่าวสารที่ชวนหดหู่ใจของบริษัทเอกชน โดยโซนี่ได้ออกแถลงการณ์เตือนนักลงทุนเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัท ส่งผลให้หุ้นโซนี่ทรุดหนักในตลาดหุ้นโตเกียว ส่วนในเยอรมนี หุ้นเดมเลอร์ร่วงรุนแรง หลังจากที่บริษัทได้ออกมาเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสามที่ลดลง พร้อมปรับลดคาดการณ์กำไรและรายได้ของปีนี้ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลเชิงลบของโซนี่ และ เดมเลอร์ มีขึ้นตามหลัง ไมโครซอฟท์ คอร์ป ที่ออกมาเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสองที่อ่อนแอกว่าคาดการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นปิดร่วงลง 9.60% ดัชนี DAX ของเยอรมนี ร่วง 4.96% ดัชนี CAC40 ของฝรั่งเศส ลดลง 3.54% ขณะที่ FTSE 100 ของอังกฤษทรุดลง 5% หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาสสามที่ปรับตัวลง 0.5% ส่อเค้าเศรษฐกิจของประเทศถดถอย