บล.กสิกรไทยและ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แนวโน้มในสัปดาห์หน้า(27-31 ตุลาคม 2551)ดัชนีหุ้นไทยยังมีแนวโน้มปรับตัวอยู่ในกรอบขาลง แม้อาจฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง โดยมีปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของธนาคารแห่งประเทศไทย และสถานการณ์การเมืองโดยเฉพาะประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ
ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญได้แก่ ความกังวลต่อวิกฤตการเงินที่อาจนำมาสู่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก การปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ผลการประชุมนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ตลอดจนการรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2551 (Advance) ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บล.กสิกรไทยคาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 410 และ 370 จุด และแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 454 และ 470 จุด ตามลำดับ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 432.87 จุด ปรับลดลง 8.16% ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี จาก 471.31 จุด ในสัปดาห์ก่อน และร่วงลง 49.55% จากสิ้นปี 2550 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลง 53.29% จาก 89,692.82 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 41,896.12 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงจาก 17,938.56 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 8,379.22 ล้านบาท
โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 5,087.79 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 4,146.30 ล้านบาท และ 941.49 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 161.25 จุด ปรับตัวลง 6.07% จาก 171.67 จุดในสัปดาห์ก่อน และร่วงลง 40.80% จากสิ้นปีก่อน